แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำสัญญากับ ว.และท. ให้คนทั้งสองออกทุนทำการก่อสร้างตึกแถวลงบนที่ดินของจำเลย จำเลยยอมให้ผู้ก่อสร้างนำอาคารออกเรียกเงินกินเปล่า และจำเลยจะทำสัญญาให้เช่าแก่บุคคลที่ผู้รับก่อสร้างนำมา ต่อมาด้วยความยินยอมของ ว.และท. จำเลยนำอาคารที่กำลังก่อสร้างมาให้โจทก์เช่า เนื่องจาก ว.และท.ขาดเงินที่จะใช้ทำการก่อสร้างต่อไป ว.และท.จึงกู้เงินโจทก์ 200,000 บาท โจทก์เกี่ยงจะได้หลักประกัน ในที่สุดได้มีการโอนสิทธิการเช่าตึก 10 ห้องที่ยังสร้างไม่เสร็จให้โจทก์ โดยวิธีให้โจทก์ทำสัญญาเช่ากับจำเลยโดยตรง การที่จำเลยยอมทำสัญญาเช่ากับโจทก์โดยสัญญาระบุไว้ว่า เช่าตึกแถวที่กำลังก่อสร้าง เป็นการยืนยันให้เห็นว่าจำเลยไม่รับรู้ในเรื่องที่ว่าจะได้มีการก่อสร้างตึกให้แล้วเสร็จหรือไม่ ทั้งในสัญญาเช่าก็ไม่ได้ระบุว่าถ้าตึกสร้างไม่เสร็จจะมีผลประการใด การที่ตึกแถวสร้างไม่แล้วเสร็จ ไม่ใช่ความผิดของจำเลย โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญากับนายวัลลภและนายเทียนช้วนให้คนทั้งสองออกทุนทำการก่อสร้างตึกแถวลงบนที่ดินของจำเลย จำเลยยอมให้ผู้ก่อสร้างนำอาคารออกเซ้งเรียกเงินกินเปล่า และจำเลยจะทำสัญญาให้บุคคลที่ผู้รับก่อสร้างนำมานั้นเช่าเป็นเวลา 12 ปี ต่อมาด้วยความยินยอมของนายวัลลภและนายเทียนช้วน จำเลยนำอาคารที่กำลังก่อสร้างมาให้โจทก์เช่า 10 ห้อง จำเลยเรียกเงินกินเปล่าจากโจทก์ 200,000 บาท เพื่อมอบให้นายวัลลภและนายเทียนช้วน โจทก์จ่ายให้ไปต่อมาจำเลยผิดสัญญาไม่ทำการก่อสร้างให้เสร็จตามกำหนด เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 300,000 บาท ฯลฯ
จำเลยให้การว่า ไม่มีหน้าที่ก่อสร้างให้แล้วเสร็จ โจทก์ไม่เคยจ่ายเงินให้ผู้รับเหมาก่อสร้าง จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา ฯลฯ
ศาลแพ่งพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตึกแถวรายพิพาทนี้ตกเป็นหน้าที่ของนายวัลลภนายเทียนช้วนจะต้องทำการก่อสร้างให้แล้วเสร็จด้วยทุนทรัพย์ของนายวัลลภและนายเทียนช้วนเอง โจทก์ทราบความข้อนี้ก่อนที่จะเข้าทำสัญญาเช่ากับจำเลย มูลเหตุที่โจทก์จำเลยจะทำสัญญาเช่ากัน สืบเนื่องมาจากการที่นายวัลลภนายเทียนช้วนขาดเงินที่จะใช้ทำการก่อสร้างต่อไป นายวัลลภนายเทียนช้วนจึงไปขอกู้เงิน 200,000 บาทจากโจทก์โจทก์เกี่ยงที่จะได้หลักประกันสำหรับเงินจำนวนนี้ ในที่สุดได้มีการโอนสิทธิการเช่าตึก 10 ห้อง ที่ยังสร้างไม่เสร็จให้โจทก์ โดยวิธีให้โจทก์ทำสัญญาเช่ากับจำเลยโดยตรง รูปคดีฟังได้ว่าเงิน 200,000 บาทนี้ เป็นเงินที่โจทก์ให้นายเทียนช้วนนายวัลลภไปเพื่อสร้างตึกให้เสร็จ ที่โจทก์ว่า ถ้านายเทียนช้วนนายวัลลภไม่สร้าง จำเลยจะสร้างให้เองนั้นปราศจากเหตุผลที่ควรรับฟัง การที่จำเลยยอมทำสัญญาเช่ากับโจทก์ สัญญาก็ระบุไว้ชัดเจนว่าเช่าตึกแถวที่กำลังก่อสร้างเป็นการยืนยันให้เห็นว่าจำเลยไม่รับรู้ในเรื่องที่ว่าจะได้มีการก่อสร้างตึกให้แล้วเสร็จหรือไม่ ทั้งในสัญญาเช่าก็ไม่ได้ระบุไว้ว่าถ้าตึกสร้างไม่เสร็จจะมีผลเป็นประการใด การที่ตึกแถวสร้างไม่แล้วเสร็จเพราะเกิดแตกกันขึ้นระหว่างนายเทียนช้วนและนายวัลลภไม่ใช่ความผิดของจำเลย โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้
พิพากษายืน