แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องคดีอาญาที่หาว่าจำเลยจำหน่ายยาสูบเกินราคาควบคุมนั้น หากในฟ้องไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่า จำเลยเป็นผู้ทำกิจการจำหน่ายยาสูบให้แก่ผู้บริโภค ทั่ว ๆ ไปแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะอาจเป็นการขายแต่ครั้งคราวเดียวซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบตาม พ.ร.บ.ยาสูบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า อาศัยอำนาจตามความมาตรา ๑๙ แห่ง พ.ร.บ.ยาสูบ ๒๔๘๖ อธิบดีกรมสรรพสามิตรได้ประกาศกำหนดราคายาสูบให้ผู้ขายปลีกยาสูบตราฆ้องที่บรรจุซองละ ๑๐ ม้วนขายไม่เกินซองละ ๑.๐๐ บาท ตามสำเนาประกาศท้ายฟ้อง จำเลยเป็นผู้ขายยาสูบได้ทราบประกาศที่กล่าวแล้ว ได้บังอาจขายปลีกยาสูบตราฆ้องให้แก่ผู้มีชื่อไปซองละ ๑.๒๕ บาท เป็นการเกินราคาที่ทางการกำหนดไว้ จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่า ที่เกิดเหตุเป็นเขตจำหน่ายยาสูบ และจำเลยเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบและได้ทราบประกาศแล้ว จึงยังหาผิดตามมาตรา ๑๙ แห่ง พ.ร.บ.ยาสูบ ๒๔๘๖ ไม่ ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องโจทก์ไม่ชัดว่า จำเลยขายยาสูบเป็นการค้าหรือไม่ อาจขายเพียงครั้งวคราวเดียวเท่านั้น ซึ่งยังถือไม่ได้ว่าเป็นผู้จำหน่ายยาสูบตาม พ.ร.บ.ยาสูบ และไม่ปรากกชัดว่าที่เกิดเหตุเป็นเขตจำหน่ายยาสูบและจำเลยได้ทราบประกาศแล้ว พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีาเห็นว่า ตามฟ้องโจทก์ไม่แจ้งชัดว่าจำเลยเป็นผู้ทำกิจการจำหน่ายยาสูบให้แก่ผู้บริโภค ทั่ว ๆ ไปแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะอาจเป็นการขายแต่ครั้งคราวเดียวซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบตาม พ.ร.บ.ยาสูบไม่ได้
พิพากษายืน