คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนไปเช่าตึกเพื่อดำเนินกิจการของห้างแม้ต่อมาหุ้นส่วนคนหนึ่งจะได้รับโอนกิจการทั้งหมดไว้แต่ผู้เดียวก็ดี เมื่อผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่จำเลยออกจากสถานที่เช่า ย่อมขับไล่ผู้รับโอนกิจการของหุ้นส่วนนั้นได้ โดยถือว่าเป็นบริวารของจำเลยผู้เช่า ผู้รับโอนจะอ้างว่าจำเลยไปทำสัญญาแทนห้างหุ้นส่วนไม่ได้

ย่อยาว

ความว่า โจทก์ ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากสถานที่เช่าจำเลยและบริวารหลายคนได้ออกไปแล้ว คงเหลือแต่ ต. ผู้เดียว ต. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่ามิได้เป็นบริวารของจำเลย ความจริงผู้ร้องและจำเลยกับคนอื่นได้เข้าหุ้นส่วนกันตั้งร้านค้าใช้ยี่ห้อว่า “เฮงไถ่” และได้เช่าตึกโจทก์ ก่อนครบกำหนดเช่า จำเลยและหุ้นส่วนอื่นได้โอนกิจการให้ผู้ร้องแต่ผู้เดียว โจทก์ได้ร้องขอให้ศาลชั้นต้นชี้ขาดข้อกฎหมายในเบื้องต้น โดยไม่ต้องไต่สวน

ศาลชั้นต้นเห็นว่า ตามสัญญาเช่าท้ายฟ้องปรากฏในวงเล็บว่าจำเลยเป็นผู้แทนยี่ห้อเฮ่งไถ ต. ผู้รับโอนกิจการ จึงเป็นตัวการทีเดียว จึงสั่งยกคำร้องของ ต. และบังคับ ต. กับบริวารให้ออกจากห้องพิพาทใน 5 วัน

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้ร้องเป็นหุ้นส่วนและเป็นบริวารของจำเลยพิพากษายืน

นายตันจึงอุย ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ยี่ห้อเฮ่งไถ่ไม่ใช่นิติบุคคล ผู้ร้องจะอ้างว่าจำเลยทำสัญญาแทนยี่ห้อเฮ่งไถ่ไม่ได้ ต้องถือว่าจำเลยเป็นผู้เช่าที่ผู้ร้องอ้างในชั้นนี้ว่าตนเป็นเจ้าของยี่ห้อเฮ่งไถ่แต่ผู้เดียวมิได้ทำให้หน้าที่และความรับผิดตามสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยเปลี่ยนแปลงไป ผู้ร้องเข้าอยู่ได้โดยอาศัยอำนาจการเช่าของจำเลยจะอ้างว่าเป็นหุ้นส่วนหรืออะไรก็ตามที แต่ตามลักษณะการอยู่ในโรงเรือนตามกฎหมายต้องถือว่าอยู่ในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า

พิพากษายืน

Share