คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3645/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่ น. เพื่อชำระหนี้ค่าไม้ น. โอนเช็คพิพาทให้โจทก์ ต่อมาจำเลยตกลงโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้ ส. เป็นการตีใช้หนี้ให้ น. ซึ่งรวมทั้งหนี้ตามเช็คพิพาทที่โจทก์นำมาฟ้องในคดีนี้ด้วยเมื่อโจทก์ทราบถึงข้อตกลงดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทอีก ดังนั้นเมื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ จำเลยก็ไม่มีความผิดตามบทบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูบ ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓ ให้จำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์จำเลยนำสืบตรงกันมีว่าจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาท เอกสารหมาย จ.๑ ให้นายนิรันดร์ วงศ์สว่างพาณิชย์เพื่อชำระหนี้ค่าไม้ เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๒๗ จำนวนเงิน ๖๙,๖๐๐ บาท นายนิรันดร์โอน ต่อมาให้โจทก์ วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๒๘ โจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ คดีจึงมีปัญหาว่า จำเลยจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓ หรือไม่ ปัญหานี้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่ารถยนต์หมายเลขทะเบียน อบ.๘๐ – ๓๖๙๐ เป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดภาคอีสานอุบล (ตังปัก) ให้จำเลยเช่าซื้อ และต่อมาจำเลยได้โอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อให้นายสงวน ศิริบูรณ์พิพัฒนา เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๒๗ โดยมีนายนิรันดร์เป็นผู้ค้ำประกันต่อห้างหุ้นส่วนจำกัดภาคอีสานอุบลและโจทก์ได้ลงชื่อในบันทึกการโอนด้วย นายสงวนเป็นพี่ภรรยาของโจทก์ ปัญหามีว่า จำเลยโอนรถยนต์ให้นายสงวนเพราะเหตุใด เห็นว่าไม่มีเหตุที่จำเลยจะโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้นายสงวนโดยไม่มีค่าตอบแทนเพราะตามข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยได้ชำระเงินดาวน์และค่างวดไปแล้วทั้งสิ้น ๑๑๘,๒๐๐ บาท ซึ่งเกินกว่าจำนวนหนี้ตามเช็คพิพาท จึงน่าเชื่อว่า ที่จำเลยโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ให้นายสงวนเป็นการโอนตีใช้หนี้ให้นายนิรันดร์ คือหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้นายนิรันดร์รวมทั้งเช็คพิพาทที่โจทก์นำมาฟ้องในดคีนี้ด้วย เมื่อฟังว่า จำเลยชำระหนี้ตามเช็คพิพาทแล้วโจทก์ก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทอีก ดังนั้น เมื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้จำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน

Share