แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในชั้นบังคับคดี คู่ความจะอ้างว่าฟ้องเดิมของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้มาสู่ศาลฎีกาเฉพาะชั้นบังคับคดีซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้แบ่งที่ดินซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์จำเลยตกเป็นของโจทก์ตามหนังสือหย่า
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้จำเลยนำค่าเช่ามาชำระให้โจทก์และโอนนาให้โจทก์ตามคำพิพากษา จำเลยไม่ยอมทำตามโดยอ้างว่าจำเลยไม่ยอมชำระค่าเช่านาเพราะจำเลยไม่รับว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ทั้งจำเลยไม่มีเงินจะวางด้วย การที่จำเลยไม่โอนนาเพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจะโอนได้
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยโอนที่ดินที่บ้านพรงและที่บ้านรางคลองเป้งที่จำเลยขึ้นทะเบียนไว้ให้แก่โจทก์และให้จำเลยชำระค่าเช่านาพิพาทตามที่ตกลง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฎีกาจำเลยว่าฟ้องของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 เพราะไม่ปรากฏชัดเจนว่าโจทก์ฟ้องเรียกที่ดินตรงไหนให้เป็นที่แน่นอนนั้น ปัญหานี้ได้ยุติแล้ว จำเลยจะมารื้อฟื้นในชั้นบังคับคดีหาได้ไม่
ส่วนปัญหาข้อหลังจำเลยว่า ศาลถือคำฟ้องสมบูรณ์แล้ว จึงพิพากษาไปนั้น ซึ่งเป็นการเด็ดขาดไปแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้