แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การหมิ่นประมาทศาลในเวลาพิจารณาคดีนั้น เมื่อศาลมีคำสั่งลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31,33 เท่านั้นก็ไม่จำต้องสอบสวนก่อน ศาลลงโทษไปได้ทันที ทีเดียวได้
กรณีละเมิดอำนาจศาล นั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะฉะนั้นโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 จึงนำบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31,33ว่าด้วยละเมิดอำนาจศาลมาใช้บังคับได้
(เทียบฎีกา 256/2483 ในเรื่องฟ้องฎีกาข้อเท็จจริง)
ย่อยาว
คดีนี้ ในระหว่างพิจารณาอยู่ ทนายจำเลยพูดว่าศาลว่าศาลห้ามทนายจำเลยไม่ให้ถาม เพื่อประโยชน์ต่อโจทก์ ซึ่งหมายความว่าผู้พิพากษาผู้นั่งพิจารณาลำเอียงเข้าข้างโจทก์ อันเป็นคำกล่าวหมิ่นประมาทศาลในขณะนั่งพิจารณา ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่านายฟักทนายจำเลยมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31, 33 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ให้จำคุกนายฟัก 6 เดือน
นายฟักอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำคุกนายฟักเพียง 3 เดือน
นายฟักฎีกา ศาลอาญาสั่งรับเฉพาะในข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ที่ผู้ฎีกาว่า การหมิ่นประมาทศาลในเวลาพิจารณาคดี ผู้กระทำย่อมมีผิดทั้งละเมิดอำนาจศาล และกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 151 ด้วย ฉะนั้น จึงต้องมีการสอบสวนเสียก่อนนั้นศาลฎีกาเห็นว่า กรณีนี้ศาลอาญา มิได้ลงโทษนายฟักตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 151 จึงไม่จำต้องสอบสวนก่อน
และกรณีละเมิดอำนาจศาลนี้ มิได้มีบัญญัติไว้โดยเฉพาะในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฉะนั้นโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 จึงนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31, 33 ว่าด้วยละเมิดอำนาจศาลมาใช้บังคับได้
ส่วนการลงโทษเห็นว่า จำคุก 1 เดือน ก็พอเหมาะสมแล้วจึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำคุกนายฟัก 1 เดือน