แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยบังอาจลอบเข้าไปลักทรัพย์ในโรงพักสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นการลักทรัพย์ในสถานที่ที่จัดไว้เพื่อบริการสาธารณะ มาตรา 335(8) หรือลักทรัพย์ในสาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า มาตรา 335(9)
อนุมาตรา 8 เป็นสถานที่บริการสาธารณะทั่วๆไป ส่วนอนุมาตรา 9 จำกัดสถานที่บางแห่งไว้โดยเฉพาะ แต่การกระทำผิดของจำเลยนี้เข้าอนุมาตรา 9 ตรงกว่าจำเลยมีผิดตาม มาตรา 335(9) อนุมาตราเดียวจึงต้องลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ตอน 1 ไม่ใช่ ตอน 2
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ได้ความว่า จำเลยได้บังอาจลอบเข้าไปในโรงพักสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย อันเป็นสาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า และเป็นสถานที่ที่จัดไว้เพื่อบริการสาธารณะและทำการลักทรัพย์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยไปรวมราคา 2,040 บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 335 ตอน 2 ให้จำคุก 3 ปี ลดรับสารภาพกึ่งหนึ่งตาม มาตรา 78 คงเหลือ 1 ปี 6 เดือน ของกลางให้คืนแก่เจ้าทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์ ขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า สถานที่แห่งเดียวจะมีสภาพเป็นสาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้าและเป็นสถานที่จัดไว้เพื่อบริการสาธารณะในเวลาเดียวกันไม่ได้ เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า สถานที่รายนี้มีสภาพทั้งสองอย่าง จำเลยรับสารภาพ โจทก์ไม่สืบพยานเพื่อให้รู้ว่าสถานที่รายนี้มีสภาพเป็นสาธารณสถานหรือสถานที่บริการสาธารณะแล้วศาลก็ไม่อาจปรับบทลงโทษว่าจำเลยมีความผิดอนุมาตราใด และจะลงโทษจำเลยทั้งสองอนุมาตราก็ไม่ได้ เพราะไม่อาจมีสภาพทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันได้ ฉะนั้น จึงลงโทษจำเลยตาม มาตรา 335 ไม่ได้คงลงโทษจำเลยได้ตาม มาตรา 334 พิพากษาแก้บทลงโทษว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 กำหนดโทษคงเดิม
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 335 ตอน 2
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้จำเลยให้การรับสารภาพเต็มตามฟ้องกล่าวคือ รับว่าได้ลักทรัพย์ในสถานที่ที่จัดไว้เพื่อบริการสาธารณะ (อนุมาตรา 8) และเป็นสาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า (อนุมาตรา 9) ด้วย หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การกระทำผิดของจำเลยจะเรียกว่าลักทรัพย์ตาม อนุมาตรา 8 ก็ได้ หรือตามอนุมาตรา 9 ก็ได้ ไม่เป็นการขัดกัน อนุมาตรา 8 เป็นสถานที่บริการสาธารณะทั่ว ๆ ไปส่วนอนุมาตรา 9 จำกัดสถานที่บางแห่งไว้โดยเฉพาะ จะปฏิเสธไม่ได้ว่าสาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้าไม่ใช่สถานบริการสาธารณะ ฉะนั้นโจทก์จึงไม่จำเป็นต้องสืบพยานตามความเห็นของ ศาลอุทธรณ์อีกแต่ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำผิดของจำเลยเข้า อนุมาตรา 9 ตรงกว่าเหตุนี้ จำเลยจึงมีผิดตาม มาตรา 335(9) อนุมาตราเดียว และต้องลงโทษตามมาตรา 335 ตอน 1 ไม่ใช่ ตอน 2
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(9) ตอน 1 ไม่ใช่ตอน 2 นอกจากที่แก้นี้คงเดิม