คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลลดค่าปรับตามสัญญาประกันโดยอ้างว่าได้พยายามติดตามตัวจำเลยและขอส่งตัวจำเลยต่อศาลศาลชั้นต้นไม่ลดค่าปรับให้ ผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ คำร้องขอลดค่าปรับจึงถึงที่สุด ผู้ประกันมายื่นคำร้องขอให้ศาลลดค่าปรับตามสัญญาประกันโดยอ้างเหตุผลอย่างเดียวกันอีก จึงเป็นกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144 ประกอบป.วิ.อ. มาตรา 15.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ปล่อยจำเลยชั่วคราว ศาลชั้นต้นอนุญาต ต่อมาศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาถึงวันนัดจำเลยและผู้ประกันไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้ปรับผู้ประกัน 100,000 บาทตามสัญญาสำหรับจำเลยให้ออกหมายจับ ต่อมาวันที่ 23 ธันวาคม 2528 จำเลยยื่นคำร้องว่าถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยมอบฉันทะให้ผู้ประกันนำคำร้องมายื่นต่อศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นจึงติดต่อขอตัวจำเลยมาดำเนินคดี วันที่ 28 มกราคม 2529 ผู้ประกันจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นงดปรับ หรือลดค่าปรับ โดยอ้างว่าได้พยามตามตัวจำเลย และขอส่งตัวจำเลยต่อศาลในวันที่ยื่นคำร้องซึ่งศาลเบิกตัวจำเลยมาพิจารณาคดีอื่น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลมีหนังสือขอตัวจำเลยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไม่ใช่ผู้ปรกันควบคุมตัวจำเลยมาส่งศาลจึงไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
ผู้ประกันอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์เพราะยื่นอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 198
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2529 ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลลดค่าปรับ โดยอ้างว่าได้พยายามติดตามจำเลยมาส่งศาล และติดต่อจนได้ตัวจำเลยมาศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไปทุกคดี ขอให้ลดค่าปรับเช่นเดียวกับคดีอื่น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดค่าปรับให้ผู้ประกันเป็นเงิน10,000 บาท คงปรับ 90,000 บาท นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้ประกันฎีกาขอลดค่าปรับลงอีก
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว วินิจฉัยว่า “ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นงดปรับหรือลดค่าปรับโดยอ้างว่าได้พยายามติดตามตัวจำเลยและขอส่งตัวจำเลยต่อศาล ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าศาลมีหนังสือขอตัวจำเลยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไม่ใช่ผู้ประกันคุมตัวจำเลยมาส่งศาล จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคำร้องของผู้ประกันในกรณีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นลดค่าปรับโดยอ้างเหตุอย่างเดียวกันนั้นอีก เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 144 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องของผู้ประกันฉบับหลังว่าไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม และผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็ไม่มีอำนาจที่จะรับวินิจฉัยให้ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยมานั้นเป็นการไม่ชอบฎีกาของผู้ประกันที่ขอให้ลดค่าปรับลงอีกจึงไม่ชอบที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้
“พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และยกฎีกาของผู้ประกัน”.

Share