คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3617/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 มิได้มุ่งหมายที่จะให้หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างเป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนเสมอไปเพราะความที่บัญญัติยกเว้นไว้ในวรรคสองนั้นเองมีความหมายว่า ถ้าหากหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างไม่อาจเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีได้ไม่ว่าด้วยประการใด ๆ และไม่ปรากฏข้อสัญญาของห้างที่กำหนดเรื่องผู้ชำระบัญชีไว้ เมื่อผู้มีส่วนได้เสียร้องขอ ศาลย่อมตั้งผู้ชำระบัญชีได้
เมื่อปรากฏว่าคู่ความตกลงยอมให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดและจำเลยให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีตามที่เห็นสมควร ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการสละสิทธิในการเป็นผู้ชำระบัญชีแล้ว การที่ศาลมีคำสั่งตั้งเจ้าหน้าที่ในกรมบังคับคดีเป็นผู้ชำระบัญชีจึงไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเข้าหุ้นกันตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยโจทก์เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด จำเลยที่ ๑ เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ได้จดทะเบียนตามกฎหมายแล้ว จำเลยที่ ๑ กับจำเลยที่ ๒ ร่วมกันดำเนินการส่อไปในทางไม่สุจริต โจทก์ไม่ประสงค์เป็นหุ้นส่วนร่วมกับจำเลยทั้งสอง โจทก์จึงแจ้งขอเลิกห้าง จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้ศาลมีคำสั่งเลิกห้างและตั้งผู้ชำระบัญชีโดยตั้งเจ้าหน้าที่ในกรมบังคับคดีเป็นผู้ชำระบัญชี
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ให้การว่าไม่เคยทุจริต โจทก์ไม่เคยขอเลิกห้าง โจทก์เอาสมุดบัญชีและเอกสารของห้างไปทำให้จำเลยไม่สามารถดำเนินกิจการ โจทก์ขอตั้งเจ้าพนักงานในกรมบังคับคดีไม่ได้เพราะขัดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๕๑
จำเลยที่ ๓ ให้การว่าประสงค์จะเลิกห้างเช่นเดียวกัน
ในวันนัดสืบพยาน คู่ความตกลงเลิกห้างโดยจำเลยขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีตามที่เห็นสมควร ฝ่ายโจทก์ขอให้ตั้งเจ้าหน้าที่ในกรมบังคับคดี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เลิกห้างตั้งเจ้าหน้าที่ในกรมบังคับคดีเป็นผู้ชำระบัญชี
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ อุทธรณ์ขอให้ตั้งจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ชำระบัญชี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ฎีกาว่า การตั้งผู้ชำระบัญชีต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๕๑ คือต้องตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นผู้ชำระบัญชี ศาลไม่อาจใช้ดุลพินิจตั้งบุคคลอื่นเป็นผู้ชำระบัญชีได้ เห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๕๑ มิได้มุ่งหมายที่จะให้หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างเป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนเสมอไปเพราะความที่บัญญัติยกเว้นไว้ในวรรคสองนั้นเองมีความหมายว่า ถ้าหากหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างไม่อาจเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีได้ไม่ว่าด้วยประการใด ๆ แต่ไม่ปรากฏข้อสัญญาของห้างที่กำหนดเรื่องผู้ชำระบัญชีไว้ เมื่อผู้มีส่วนได้เสียร้องขอ ศาลย่อมตั้งผู้ชำระบัญชีได้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๓๐๑/๒๕๒๖ เมื่อปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาว่าคู่ความตกลงยอมให้เลิกห้างและจำเลยให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีตามที่เห็นสมควรหมายความว่าศาลไม่ตั้งจำเลยที่ ๑ ก็ได้ ซึ่งถือได้ว่าจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการสละสิทธิในการเป็นผู้ชำระบัญชีแล้ว การที่ศาลตั้งเจ้าหน้าที่ในกรมบังคับคดีเป็นผู้ชำระบัญชีจึงหาขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๕๑ ไม่
พิพากษายืน

Share