คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3611/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

สัญญานายหน้าทำขึ้น 2 ฉบับ ฉบับที่โจทก์อ้างว่าตนยึดถือไว้มีการเพิ่มเติมและขีดฆ่าชื่อนายหน้าเป็นพิรุธ ส่วนฉบับที่อยู่กับจำเลยไม่มีรอยขีดฆ่าตกเติมแต่อย่างใด ทั้งไม่มีชื่อโจทก์เป็นคู่สัญญา จึงฟังว่าจำเลยไม่ได้ตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดิน แม้จะได้ความตามที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์เป็นผู้ชี้ช่องจนได้มีการทำสัญญาซื้อขายที่ดินกัน แต่เมื่อ จำเลยมิได้ตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้า โจทก์ก็ฟ้องจำเลยให้จ่าย ค่านายหน้าหาได้ไม่

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ชั้นนี้มีประเด็นวินิจฉัยเพียงว่าจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 จะต้องรับผิดใช้ค่านายหน้าแก่โจทก์หรือไม่พิจารณาแล้ว โจทก์นำสืบว่าทำสัญญานายหน้ากับจำเลยที่ 1 ผู้เดียวเพราะจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกมีอำนาจลงชื่อแทนทายาททั้งหมดเห็นว่าผู้จัดการมรดกของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี มีด้วยกัน 7 คน หาใช่มีแต่จำเลยที่ 1 เพียงผู้เดียวไม่ และจากสัญญานายหน้าเอกสารหมาย จ.2 ซึ่งโจทก์อ้างว่าโจทก์ยึดถือไว้ กับสัญญานายหน้าเอกสารหมาย ล.1 ซึ่งอยู่ที่จำเลยที่ 1 มีข้อความเขียนไว้ต่อท้ายลายเซ็นของจำเลยที่ 1 ว่า “เมื่อได้รับความเห็นชอบจากผู้จัดการมรดกอีก 6 คนแล้ว” แสดงว่าขณะทำสัญญานายหน้าดังกล่าวจำเลยที่ 1 ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้จัดการมรดกคนอื่น แต่ได้กระทำไปโดยพลการ ทั้งยังได้ความตามข้อนำสืบของจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 ทำสัญญานายหน้ากับนายทวี แซ่ล้อ, นายฟุ้ง ทองนวล, นายสุทินและนายสุจินต์ (ไม่ปรากฏนามสกุล) ปรากฏตามสัญญาที่จำเลยที่ 1 ยึดถือไว้ตามเอกสารหมาย ล.1พิเคราะห์แล้วเอกสารหมาย ล.1 ไม่มีชื่อโจทก์เป็นคู่สัญญา แต่ฉบับหมาย จ.2 ที่โจทก์อ้างมีชื่อนายหน้ามากกว่าเอกสารหมาย ล.1 ถึง 2 คน คือนายเจือ ม่วงชุ่ม และโจทก์ โดยเขียนเพิ่มเติมลงไปในภายหลังสีของหมึกแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งมีรอยขีดฆ่าชื่อนายทวี แซ่ล้อ กับนายสุทินออก มีหมายเหตุว่า ชื่อที่ฆ่าขอสละสิทธิถ้ามีเหตุอันใดเกิดขึ้นไม่ขอรับผิดชอบ ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อสัญญานายหน้าทำขึ้น 2 ฉบับ ฉบับที่โจทก์อ้างว่าตนยึดถือไว้มีการเพิ่มเติมและขีดฆ่าชื่อนายหน้าเป็นพิรุธ ส่วนฉบับที่อยู่กับจำเลยที่ 1 ไม่มีรอยขีดฆ่าตกเติมแต่อย่างใด ทั้งไม่มีชื่อโจทก์เป็นคู่สัญญา จึงฟังว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินรายนี้ แม้จะได้ความตามที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์เป็นผู้ชี้ช่องจนได้มีการทำสัญญาซื้อขายที่ดินกัน แต่เมื่อจำเลยมิได้ตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้า โจทก์ก็ฟ้องจำเลยให้จ่ายเงินค่านายหน้าหาได้ไม่ จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ไม่ต้องรับผิดใช้ค่านายหน้าแก่โจทก์”

พิพากษายืน

Share