คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาจะซื้อขายที่ดินซึ่งกฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือนั้นเมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้ขาย ยอมให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อผัดชำระเงินที่ถึงกำหนดในงวดนั้นไปรวมชำระพร้อมกับเงินที่เหลือให้เสร็จสิ้นในวันโอนโฉนดและก็ได้ถือเอากำหนดที่ให้ผัด (จะเป็นวันใดก็แล้วแต่)มาเช่นนี้ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ เพราะเป็นเพียงกรณีที่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ยอมผ่อนผันให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ในการชำระเงินผัดเวลาชำระเงินงวดหนึ่งต่อไปจำเลยไม่มีสิทธิจะริบเงินและเลิกสัญญา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาแบ่งขายที่ดินให้โจทก์ราคา 21,000 บาท จำเลยรับชำระไปแล้ว 8,200 บาท จำเลยไม่ไปโอนทะเบียนให้โจทก์ กลับเอาที่ดินไปขายผู้อื่นเสีย จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยคืนเงิน 8,200 บาท และชดใช้ค่าเสียหายอีก 5,000 บาท

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยผิดสัญญาไม่ไปโอนที่ดินให้โจทก์ตามกำหนด แต่โจทก์นำสืบในข้อค่าเสียหายไม่สมฟ้องพิพากษาให้จำเลยคืนเงิน 8,200 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดนัดดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ที่จำเลยฎีกาว่า การตกลงจะซื้อขายที่ดินรายนี้ กฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงก็ต้องทำเป็นหนังสือ ซึ่งจะมีผลบังคับได้ โจทก์จึงเป็นผู้ผิดนัดอยู่นั้นในข้อนี้ปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลย ต่างยอมรับว่าได้มีการให้ผัดชำระกันจริงคงเถียงกันแต่ว่าให้ผัดไปวันใดเท่านั้น จำเลยมิได้ยืนยันมาว่าโจทก์ผิดนัดเพราะไม่ชำระตามกำหนดในสัญญาเดิมแต่ว่าโจทก์ผิดนัดเพราะมิได้ชำระในวันที่จำเลยว่าได้ให้ผัดไปจำเลยเพิ่งจะมาย้อนเอาเป็นกำหนดเดิมในสัญญาในชั้นอุทธรณ์รูปคดีเป็นเช่านี้ ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยยอมให้โจทก์ผัดชำระเงินที่ถึงกำหนดในงวดนั้นไปรวมชำระพร้อมกับเงินที่เหลือให้เสร็จสิ้นในวันโอนโฉนด และก็ได้ถือเอากำหนดที่ให้ผัด (จะเป็นวันใดก็แล้วแต่) มาเช่นนี้ ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ เพราะเป็นเพียงกรณีที่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ยอมผ่อนผันให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ในการชำระเงินผัดเวลาชำระเงินงวดหนึ่งต่อไป จำเลยไม่มีสิทธิจะริบเงินและเลิกสัญญา

พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share