แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายเป็นผู้ก่อเรื่องด่าและจะทำร้ายจำเลยก่อนไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ด่าตอบ เมื่อมีผู้บอกให้จำเลยกลับบ้านจำเลยก็กลับทันทีผู้ตายวิ่งตามจำเลยไปและเงื้อมีดจะทำร้ายจำเลยด้วยจำเลยหันหลังกลับใช้ขวานฟันผู้ตาย 1 ทีถึงแก่ความตายดังนี้ ได้ชื่อว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
ได้ความว่า วันเกิดเหตุ จำเลยกับผู้อื่นอีกหลายคนไปช่วยทำเกวียนของนายโปรย นายซึมผู้ตายเมาสุรา หาบถังจะไปตักน้ำเดินด่าไม่ออกชื่อใครมาทางบ้านนายโปรย พอถึงประตูรั้วบ้าน ก็วางถังไว้ ถือไม้ค้านเดินเข้ามาในลานบ้านนายโปรย นายน้อยถามผู้ตายว่าด่าใคร ผู้ตายว่าไม่ใช่เรื่องของนายน้อย แต่ด่าคนทำงานอยู่ที่นี่แล้วผู้ตายวางคานลงฉวยมีดปลายแหลมของนายโปรยซึ่งวางอยู่ที่ม้าทำงานมาพลางด่าและว่าจะฆ่าจำเลย นายน้อยเข้าจับผู้ตายไว้และบอกให้จำเลยกลับบ้าน จำเลยหยิบขวานของนายโปรยซึ่งวางอยู่ที่ม้าทำงานนั้นเดินไปได้ 2-3 ก้าว ผู้ตายสบัดหลุดจากนายน้อยวิ่งตามจำเลยไป และเงื้อมีดจะทำร้ายจำเลย พอใกล้จะทันจำเลยก็หันกลับมาใช้ขวานฟันผู้ตายถูกที่ทัดดอกไม้ด้านซ้าย กระโหลกศีรษะแตกมันสมองไหลผู้ตายล้มลง ต่อมาไม่นานก็ตายด้วยพิษบาดแผล โจทก์จึงฟ้องหาว่าจำเลยฆ่า นายซึมตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 15 ปี ตามมาตรา 249 แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลยพ้นข้อหา
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตายเป็นผู้ก่อเรื่องด่าและจะทำร้ายจำเลยก่อนไม่ปรากฏว่าจำเลยด่าตอบ เมื่อนายน้อยบอกให้จำเลยกลับ จำเลยก็กลับทันที ผู้ตายสบัดหลุดวิ่งตามจำเลยไปและเงื้อมีดจะทำร้ายจำเลยด้วย จำเลยหันหลังกลับใช้ขวานฟันผู้ตายไป จึงได้ชื่อว่าจำเลยได้ป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
พิพากษายืน