แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยถูกลงโทษจำคุกในความผิดหลายกระทงในคดีเดียวกันการรอการลงโทษต้องพิจารณาถึงโทษจำคุกในความผิดแต่ละกระทงศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 กระทง โทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 2 ปี ศาลรอการลงโทษได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 11, 48, 73, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา ฉบับที่ 4พ.ศ. 2503 มาตรา 17, 18 ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2518 มาตรา 7, 19, 28ฉบับที่ 6 พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 9 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2494 มาตรา 6ฐานตัดฟันไม้จำคุก 2 ปี ฐานแปรรูปไม้ จำคุก 2 ปี ฐานมีไม้แปรรูป จำคุก2 ปี รวมจำคุก 6 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานตัดฟันไม้หวงห้าม จำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ 10,000 บาท ฐานแปรรูปไม้ จำคุกคนละ 2 ปี ฐานมีไม้แปรรูป จำคุกคนละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 6 ปี ปรับคนละ 10,000บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกคนละ 3 ปี ปรับคนละ 5,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “โจทก์ฎีกาว่าที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษรวมจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี ไม่ชอบที่จะรอการลงโทษให้จำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ที่จำเลยทั้งสามถูกลงโทษจำคุกในความผิดหลายกระทงในคดีเดียวกัน การรอการลงโทษได้หรือไม่จะต้องพิจารณาถึงโทษจำคุกในความผิดแต่ละกระทงที่ศาลลงแก่ผู้นั้น คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสาม 3 กระทง โทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกินกว่า2 ปี จึงอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะรอการลงโทษให้ได้ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1989/2523 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดตาก โจทก์ นายเฉลิมภู่น้อง จำเลย”
พิพากษายืน