คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2492/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์โดยอาศัยอำนาจตามระเบียบของจำเลยเนื่องจากโจทก์ขับรถจำเลยชนกับรถผู้อื่นโจทก์เห็นว่าคำสั่งและระเบียบของจำเลยดังกล่าวขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมจำเลยให้การต่อสู้ว่าระเบียบและคำสั่งของจำเลยไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและชอบด้วยกฎหมายแล้ว เป็นการเลิกจ้างที่ชอบด้วยกฎหมาย ประเด็นจึงมีว่าการที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ด้วยเหตุดังกล่าวเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่
โจทก์ขับรถไปเกิดอุบัติเหตุก่อนที่ระเบียบฉบับใหม่ของจำเลยจะใช้บังคับระเบียบฉบับใหม่จึงไม่มีผลบังคับสำหรับกรณีโจทก์ คดีไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าระเบียบฉบับใหม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือไม่ กรณีต้องบังคับตามระเบียบฉบับเดิมซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างและใช้บังคับในขณะเกิดอุบัติเหตุ เมื่อได้ความว่าโจทก์ปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายอันเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงซึ่งระเบียบฉบับเดิมระบุโทษให้ไล่ออกฉะนั้นที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าระเบียบของจำเลยฉบับใหม่ไม่มีผลบังคับในกรณีของโจทก์ การกระทำของโจทก์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยอย่างร้ายแรงจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จึงมิใช่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
โจทก์อุทธรณ์ในข้อที่มิได้อ้างมาในฟ้อง จึงมิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานและชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า การเลิกจ้างชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์โดยอาศัยอำนาจตามข้อ 35 แห่งระเบียบบริษัทขนส่งจำกัดว่าด้วยการปฏิบัติเมื่อรถของบริษัทขนส่งจำกัดเกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2522 เนื่องจากโจทก์ขับรถของจำเลยเกิดอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกของบริษัทอาหารเย็นขนส่งจำกัด โจทก์เห็นว่าระเบียบและคำสั่งของจำเลยดังกล่าวขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยให้การต่อสู้ว่าระเบียบและคำสั่งของจำเลยไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและชอบด้วยกฎหมายแล้ว เป็นการเลิกจ้างที่ชอบด้วยกฎหมาย ประเด็นจึงมีว่าการที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ด้วยเหตุดังกล่าวเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ ได้ความว่าระเบียบบริษัทขนส่งจำกัดว่าด้วยการปฏิบัติเมื่อรถของบริษัทขนส่งจำกัดเกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2522 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2522 เป็นต้นไป แต่อุบัติเหตุในคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2518 ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ซึ่งตามระเบียบจำเลยดังกล่าวข้อ 50 อันเป็นบทเฉพาะกาลระบุว่า บรรดาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับให้ดำเนินการตามระเบียบและวิธีปฏิบัติของบริษัทที่มีอยู่เดิมต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ ระเบียบที่มีอยู่เดิมคือระเบียบบริษัทขนส่งจำกัด ฉบับที่ 5 ว่าด้วยการบรรจุบุคคลเข้าทำงาน วินัย และการลงโทษพนักงานบริษัทขนส่ง จำกัด พ.ศ. 2504 ลงวันที่ 31 มกราคม 2504 เห็นได้ว่าระเบียบบริษัทขนส่งจำกัดว่าด้วยการปฏิบัติเมื่อรถของบริษัทขนส่งจำกัดเกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2522ไม่มีผลบังคับสำหรับกรณีของโจทก์ คดีไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าระเบียบบริษัทขนส่งจำกัดว่าด้วยการปฏิบัติเมื่อรถของบริษัทขนส่งจำกัดเกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2522 ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือไม่ แต่กรณีต้องบังคับตามระเบียบบริษัทขนส่งจำกัด ฉบับที่ 5 ว่าด้วยการบรรจุบุคคลเข้าทำงาน วินัย และการลงโทษพนักงานบริษัทขนส่งจำกัด พ.ศ. 2504 ซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างและใช้บังคับอยู่ในขณะเกิดอุบัติเหตุ เมื่อได้ความว่าโจทก์ปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้บริษัทจำเลยได้รับความเสียหายอันเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งระเบียบของจำเลยดังกล่าวข้อ 33 ระบุโทษให้ไล่ออก ฉะนั้นที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าระเบียบของจำเลยว่าด้วยการปฏิบัติเมื่อรถของบริษัทขนส่งจำกัดเกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2522 ไม่มีผลบังคับในกรณีของโจทก์ การกระทำของโจทก์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยอย่างร้ายแรง จำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จึงมิใช่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น ดังที่โจทก์อุทธรณ์

ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า การกระทำของโจทก์มิใช่ผลโดยตรงที่ทำให้จำเลยเสียหายจำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมนั้น เห็นว่าประเด็นข้อนี้โจทก์มิได้อ้างมาในฟ้อง จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายืน

Share