คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3285/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์แต่งตั้งให้ ผ. เป็นตัวแทนโจทก์เจรจาตกลงเรื่องค่าเสียหายกับจำเลย โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ได้ให้สัตยาบันการกระทำของ ผ. ที่ได้ไปทำข้อตกลงเกี่ยวกับค่าเสียหายซึ่งเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความในฐานะตัวแทนโจทก์ โจทก์ต้องผูกพันในข้อตกลงนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797 และมาตรา 823 โดยโจทก์ไม่ต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้ ผ. เจรจาตกลงเรื่องค่าเสียหายดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน ๗๐-๑๕๑๓ กรุงเทพมหานคร โดยเช่ามาจากผู้มีชื่อ และต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับรถตามสัญญาดังกล่าว จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ มีส่วนได้เสียและผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นตัวแทนตัวการซึ่งกันและกันเกี่ยวกับกิจการเดินรถโดยสารคันหมายเลขทะเบียน นม.๐๓๖๙๘ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๒๕ จำเลยที่ ๑ ขับรถโดยสารคันดังกล่าวไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ โดยความประมาทปราศจากความระมัดระวังพุ่งชนและเฉี่ยวท้ายรถฝ่ายโจทก์ทำให้หัวเก๋งและกระบะรถของโจทก์เสียหาย ข้าวสารที่บรรทุกมาเสียหายคนขับรถของโจทก์ได้รับบาดเจ็บ รวมเป็นค่าเสียหายทั้งสิ้น ๒๘๑,๖๗๒.๔๐ บาท จำเลยชำระค่ากู้รถและสินค้ากับข้าวสารที่เสียหายแก่โจทก์แล้ว ขอให้บังคับให้จำเลยชำระค่าเสียหายที่จะต้องรับผิดอีก ๒๕๘,๗๘๔ บาท ให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ให้การว่า นายผดุง พุ่มบัว ตัวแทนโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความระงับข้อพิพาทแล้ว โดยจำเลยตกลงซ่อมรถยนต์ให้โจทก์และชดใช้ค่าข้าวสารที่เสียหาย โจทก์ไม่ติดใจฟ้องร้องทางแพ่งและอาญาอีกต่อไป นายผดุงเป็นผู้มีอำนาจทำความตกลงกับจำเลยได้ หรือมิฉะนั้นโจทก์รู้อยู่แล้วยอมให้นายผดุงเชิดตัวเองออกเป็นตัวแทนโจทก์ โจทก์ได้ให้สัตยาบันการกระทำของนายผดุงโดยรับชำระหนี้บางส่วนจากจำเลยที่ ๒ จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายนอกจากที่ปรากฏในสัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยที่ ๓ ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยที่ ๑ ไม่ใช่ลูกจ้างและหรือขับรถในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๓ จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ มิได้มีส่วนได้เสียและผลประโยชน์ร่วมกัน สิทธิเรียกร้องของโจทก์ระงับไปแล้วโดยสัญญาประนีประนอมยอมความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์แต่งตั้งให้นายผดุงเป็นตัวแทนโจทก์เจรจาตกลงเรื่องค่าเสียหายกับฝ่ายจำเลย โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ได้ให้สัตยาบันการกระทำของนายผดุงในฐานะตัวแทนของโจทก์ตามข้อตกลงเอกสารหมาย จ.๖ โจทก์ต้องผูกพันในข้อตกลงดังกล่าว โดยโจทก์ไม่ต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้นายผดุงเจรจาตกลงเรื่องค่าเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๙๗, ๘๒๓ และเมื่อปรากฏตามข้อตกลงในเอกสารหมาย จ.๖ ว่า นอกจากค่าเสียหายเกี่ยวกับค่าซ่อมแซมรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ๗๐-๑๕๑๓ กรุงเทพมหานคร และค่าข้าวสารที่โจทก์เสียหายแล้ว ค่าเสียหายอย่างอื่น โจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องจากจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ อีกข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๕๐ มีผลระงับข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสาม ทำให้การเรียกร้องเกี่ยวกับหนี้มูลละเมิดซึ่งฝ่ายโจทก์ยอมสละนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิขึ้นใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๕๒ คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสามชำระค่าเสียหายในมูลละเมิดเดิม ศาลล่างทั้งสองศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share