แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในการกู้ยืมเงินมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น จะนำสืบการใช้เงินได้ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงการหักกลบลบหนี้ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป ๒๕๐ บาท ส่วนจำเลยต่อสู้ว่าได้ผ่อนใช้ให้โจทก์ไปเสร็จสิ้นแล้ว
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยได้ผ่อนใช้หนี้ให้โจทก์เพียง ๑๗๕ บาทเท่านั้น จึงพิพากษาให้จำเลยใช้หนี้ที่ค้างให้โจทก์
ศาลฎีกาตัดสินว่าหนี้รายนี้มีสัญญากู้เป็นหลักฐานจึงเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องนำพิศูจน์ตามข้อต่อสู้ว่าจำเลยได้ผ่อนชำระหนี้แล้ว ส่วนเงินจำนวนหนึ่งซึ่งจำเลยอ้างว่าได้นำไปผ่อนใช้โจทก์แล้วนั้นได้ความว่าเงินจำนวนนี้จำเลยยังไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลแพ่งฯ ม.๖๕๓ จึงไม่ทำให้จำเลยพ้นผิดไปได้ ข้อที่จำเลยต่อสู้ว่าภริยาโจทก์ซื้อจักร์ไปราคา ๓๐ บาทกับค่าเช่าโจทก์ค้างจำเลย ๔๘ บาทกับโจทก์ได้คิดหักกลบลบหนี้กับเงินกู้รายนี้นั้น หลักฐานของจำเลยเลื่อนลอย และจำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือประกอบข้อต่อสู้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์