แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ทั้งสองฟ้องตั้งรูปคดีว่าทางพิพาทบนที่ดินของจำเลยเป็นทางภาระจำยอมและเป็นทางจำเป็นแก่ที่ดินของโจทก์ทั้งสอง เป็นคำฟ้องที่ให้ศาลเลือกวินิจฉัยจากข้อเท็จจริงว่าเป็นทางประเภทใด เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่าทางพิพาทไม่เป็นทางภาระจำยอมแต่เป็นทางจำเป็น แม้จำเลยอุทธรณ์มาฝ่ายเดียวว่าทางพิพาทมิใช่ทางจำเป็น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวนว่า ทางพิพาทมิใช่ทางจำเป็นแต่เป็นทางภาระจำยอมได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้จำเลยไปจดทะเบียนทางภาระจำยอมและทางจำเป็นในโฉนดที่ดินเลขที่ 10579 ตำบลตะนาวศรี (ตลาดขวัญ) อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ของจำเลยเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 10580 ตำบลตะนาวศรี (ตลาดขวัญ) อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ของโจทก์ที่ 1 กว้าง 1 เมตร ยาวตลอดแนว หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเปิดทางจำเป็นในที่ดินโฉนดเลขที่ 10579 ตำบลตะนาวศรี อำเภอนนทบุรี (ตลาดขวัญ) จังหวัดนนทบุรี กว้าง 1.04 เมตร ยาว 17.05 เมตร ให้แก่ที่ดินของโจทก์ที่ 1 โฉนดเลขที่ 10580 ตำบลตะนาวศรี อำเภอนนทบุรี (ตลาดขวัญ) จังหวัดนนทบุรี โดยให้โจทก์ที่ 1 จ่ายค่าทดแทนแก่จำเลย 40,000 บาท ยกฟ้องโจทก์ที่ 2 ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยเปิดทางพิพาทและจดทะเบียนทางพิพาทเป็นภาระจำยอมในที่ดินโฉนดเลขที่ 10579 ตำบลบางตะนาวศรี อำเภอนนทบุรี (ตลาดขวัญ) จังหวัดนนทบุรี ของจำเลย เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 10580 ตำบลบางตะนาวศรี อำเภอนนทบุรี (ตลาดขวัญ) จังหวัดนนทบุรี ของโจทก์ที่ 1 หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย คำขออื่นให้ยกนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2547 โจทก์ที่ 1 ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 10580 ตำบลตะนาวศรี (ตลาดขวัญ) อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี มีบ้านเลขที่ 45 ปลูกอยู่ที่ดินแปลงนี้ ด้านทิศตะวันตกติดแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านทิศใต้ติดคลองวัดเขมา ตามแผนที่วิวาท ส่วนจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 10579 ร่วมกับบุคคลอื่นตามโฉนดที่ดิน ทางพิพาทกว้าง 1.30 เมตร ยาว 17 เมตร อยู่ในเขตที่ดินของจำเลย ที่จำเลยอ้างว่าเป็นทางเดินที่โจทก์ที่ 1 สามารถใช้เดินผ่านจากบ้านเลขที่ 45 ออกสู่ทางสาธารณะได้เพราะเป็นที่ดินที่อยู่ติดกับตึกแถวที่โจทก์ที่ 1 เช่าอยู่อาศัยมา 20 กว่าปีแล้วมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ทางพิพาทเป็นทางจำเป็นมิใช่ทางภาระจำยอม โจทก์พอใจและไม่อุทธรณ์ ประเด็นเรื่องภาระจำยอมจึงถึงที่สุดไปแล้วศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงไม่มีอำนาจหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยว่าทางพิพาทไม่ใช่ทางจำเป็นแต่เป็นทางภาระจำยอม ปัญหานี้ เห็นว่าโจทก์ที่ 1 ฟ้องตั้งรูปคดีว่าทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอม และทางจำเป็น ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าเป็นทางจำเป็น แม้โจทก์ที่ 1 มิได้อุทธรณ์ หากศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นว่าทางพิพาทไม่ใช่ทางจำเป็นเพราะที่ดินและบ้านของโจทก์ที่ 1 อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นทางสาธารณะอยู่แล้ว ทางพิพาทจึงไม่เป็นทางจำเป็น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ก็มีอำนาจวินิจฉัยว่าเป็นทางภาระจำยอมได้ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ที่ 1 ให้โจทก์ที่ 1 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความให้รวม 6,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1