แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จำเลยจะเคยซื้อน้ำมันดีเซลเกินกำหนดที่ประกาศไว้ในคำสั่งของนายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็เป็นการซื้อโดยได้รับอนุญาตจากนายอำเภอแห่งท้องที่ และเป็นการซื้อภายหลังจากที่คำสั่งนายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้ใช้บังคับแล้ว กรณีจึงมิใช่เป็นการซื้อน้ำมันดีเซลตามปกติเช่นที่เคยซื้อ ตามความหมายในคำสั่งนายกรัฐมนตรี ข้อ19 (4) การที่จำเลยซื้อน้ำมันดีเซลเกินกำหนดในคดีโดยไม่รับอนุญาต จึงเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อน้ำมันดีเซลเกินปริมาณที่คำสั่งนายกรัฐมนตรีกำหนดห้ามไว้ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ประกอบธุรกิจหรืออุตสาหกรรมหรือกิจการอื่นที่คณะกรรมการกำหนด ให้ซื้อน้ำมันดีเซลได้ไม่เกินปริมาณที่เคยซื้อตามปกติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ข้อ ๑๙(๔) นั้น หมายถึงผู้ประกอบธุรกิจหรืออุตสาหกรรมหรือกิจการอื่นที่คณะกรรมการกำหนดที่เคยซื้อน้ำมันดีเซลและมีหลักฐานที่เคยซื้อมาแล้ว ก่อนที่คำสั่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับ จึงจะซื้อน้ำมันดีเซลได้ไม่เกินปริมาณที่เคยซื้อตามปกติโดยไม่ต้องขออนุญาตอีก แม้จะซื้อเกินกว่าจำนวนครั้งละ ๒๐ ลิตรก็ตาม คดีนี้ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยมีหลักฐานว่าได้เคยซื้อน้ำมันดีเซลในปริมาณที่เคยซื้อตามปกติโดยไม่ต้องขออนุญาตมาก่อนแต่อย่างใดและที่จำเลยเคยซื้อน้ำมันดีเซลมาแล้ว ๕ ครั้ง ครั้งละ ๔,๐๐๐ ลิตร ดังที่ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.๒ ถึง จ.๖ ก็เป็นการซื้อโดยได้รับอนุญาตจากนายอำเภอแห่งท้องที่และเป็นการซื้อภายหลังจากที่คำสั่งนายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าวใช้บังคับแล้ว กรณีจึงมิใช่เป็นการซื้อน้ำมันดีเซลตามปกติเช่นที่เคยซื้อ ตามความหมายในคำสั่งนายกรัฐมนตรีข้อ ๑๙(๔) แต่เป็นการซื้อในกรณีจำเป็นโดยได้รับอนุญาต ดังนั้นเมื่อจำเลยซื้อน้ำมันดีเซลจำนวน ๔,๐๐๐ ลิตร ครั้งที่เกิดเหตุนี้ โดยมิได้รับอนุญาตให้ถูกต้อง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
พิพากษายืน