คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3519/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฎีกาโจทก์ไม่ได้กล่าวว่าข้อนำสืบของจำเลย ข้อวินิจฉัยและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมายในข้อไหนอย่างไรให้ชัดแจ้ง จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัดสาขาอู่ทอง จำนวนเงิน 70,000 บาท แลกเงินสดจากโจทก์ ต่อมาโจทก์นำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คจำนวน 70,000 บาท ให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยเป็นเงิน 5,103 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน75,103 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า เช็คตามฟ้องนางรัชนีเป็นผู้จัดหามาให้จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายมอบให้นางรัชนีไว้เป็นประกันหนี้เงินกู้ที่นางสุปัญญาได้กู้เงินจากนางรัชนี 30,000 บาทเมื่อนางสุปัญญาไม่ชำระหนี้ให้แก่นางรัชนี นางรัชนีได้คบคิดกับโจทก์ให้โจทก์นำเช็คมาฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ตามเช็คโดยไม่สุจริตโจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพียงประเด็นเดียวว่า จำเลยจะต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์หรือไม่ โดยไม่ได้กำหนดประเด็นว่าโจทก์คบคิดกับนางรัชนีฉ้อฉลจำเลยหรือไม่ ข้อนำสืบของจำเลยจึงไม่ชอบและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้น เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ไม่ได้กล่าวว่าข้อนำสืบของจำเลย ข้อวินิจฉัยและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมายในข้อไหนอย่างไรให้ชัดแจ้ง จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์

Share