คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า สามีโจทก์ซื้อสวนยางมาแล้วโจทก์กับสามีครอบครองตลอดมา สามีโจทก์ตายโจทก์ก็ยังคงครอบครองต่อมารวม10 ปีกว่า บัดนี้จำเลยโต้เถียงกรรมสิทธิ์จึงขอให้แสดงว่าเป็นที่ของโจทก์ และห้ามจำเลยเกี่ยวข้องดังนี้ แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า โจทก์ไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายประเด็นในข้อโจทก์ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนก็ยังเหลืออยู่ จึงต้องถือว่าโจทก์ยังมีอำนาจฟ้องผู้บุกรุกเข้ามาแย่งสิทธิครอบครองหรือทำให้เสียหายได้อยู่ศาลจะด่วนพิพากษายกฟ้องโดยไม่พิจารณาประเด็นข้อครอบครองเสีย ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภริยานายเต็กสร้าง ๆ ได้ซื้อสวนยางพิพาทจากนายชามมาแล้วโจทก์กับสามีได้เข้าครอบครองตลอดมา ต่อมานายเต็กสร้างถึงแก่กรรม โจทก์คงครอบครองต่อมา รวมได้ 10 ปีกว่า บัดนี้จำเลยเข้ามาโต้เถียงกรรมสิทธิ์ จึงขอให้ศาลแสดงว่าที่สวนพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง

จำเลยต่อสู้ว่า ที่สวนพิพาทเป็นของบิดาจำเลย ๆ ยกให้จำเลยแล้ว ฯลฯ

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่า โจทก์ได้กับนายเต็กสร้าง เมื่อ พ.ศ. 2481 เมื่อไม่ได้จดทะเบียนสมรส จึงไม่เป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คงเห็นด้วยกับศาลอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายเต็กสร้าง แต่โจทก์ได้อ้างว่าโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนสืบตลอดมา โจทก์จึงอาจมีสิทธิครอบครองและฟ้องผู้บุกรุกได้ ฉะนั้น แม้เหตุในข้อเป็นภริยานายเต็กสร้างจะตกไป ประเด็นข้อโจทก์มีสิทธิครอบครองเพื่อตนยังมีอยู่ซึ่งยังมิได้รับการวินิจฉัย

จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์ พิจารณาตามประเด็นดังกล่าว ให้สิ้นกระแสร์ความ ฯลฯ

Share