คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3496/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างไม่ยอมจ่ายเงินสงเคราะห์รายเดือนและเงินสะสมให้โจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยมีสิทธิยึดหน่วงเพราะโจทก์ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องเป็นเหตุให้จำเลยเสียหายและจำเลยได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโจทก์แล้วนั้น เมื่อปรากฏว่าคดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างพิจารณา จึงยังเป็นหนี้ที่ไม่แน่นอนและยังไม่ถึงกำหนดชำระ ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่ตนเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งยึดครองนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงเงินดังกล่าว เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระเงินดังกล่าวก็ต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ต่อมาโจทก์ได้ลาออกจากงานจึงมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์รายเดือนและเงินสะสม จำเลยไม่ยอมชำระขอให้บังคับจำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์บกพร่องต่อหน้าที่อย่างร้ายแรงเป็นผลให้นายจำนวนผู้อยู่ในบังคับบัญชาของโจทก์ทุจริตต่อหน้าที่เบียดบังเงินของจำเลยไป จำเลยจึงฟ้องโจทก์และนายบุญธรรมให้ร่วมรับผิดใช้เงินดังกล่าว คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา โจทก์ได้เคยยอมรับผิดต่อโจทก์แล้ว จึงเป็นหนี้อันแน่นอนที่โจทก์ต้องชำระให้จำเลย จำเลยจึงมีสิทธิที่จะยึดหน่วงเงินต่าง ๆ ของโจทก์ไว้เพื่อหักกลบลบหนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินสงเคราะห์รายเดือนและเงินสะสมและดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า โจทก์ลาออกจากงานโดยสมัครใจมิใช่ถูกไล่ออก โจทก์จึงมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์รายเดือนและเงินสะสม การที่จำเลยฟ้องโจทก์กับนายบุญธรรมเรียกค่าเสียหายโดยอ้างว่าโจทก์กับนายบุญธรรมปฏิบัติหน้าที่บกพร่องเป็นเหตุให้จำเลยเสียหายนั้น คดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างพิจารณา จึงยังเป็นหนี้ที่ไม่แน่นอนและยังไม่ถึงกำหนดชำระแม้โจทก์ทำหนังสือยอมรับผิดตามหนังสือรับสภาพหนี้ท้ายคำให้การ แต่จำเลยแถลงว่าจำเลยไม่ติดใจเรียกร้องเงินจำนวนตามหนังสือดังกล่าวจากโจทก์เนื่องจากจำเลยฟ้องเรียกเงินจากโจทก์และนายบุญธรรมต่อศาลแล้ว ที่จำเลยแนบหนังสือดังกล่าวมาเพื่อแสดงว่าโจทก์ยอมรับผิดในการกระทำของนายจำนวนเท่านั้น จำเลยยึดหน่วงเงินสงเคราะห์และเงินสะสมของโจทก์ไว้เพราะโจทก์มีหน้าที่ต้องชำระเงินตามที่ฟ้องโดยรับผิดร่วมกับนายบุญธรรม มิใช่เพราะมีหนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าว ดังนั้น จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยมีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่ตนเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งยึดครองนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241 จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงเงินดังกล่าว เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์จึงต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224

พิพากษายืน

Share