คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3481/2537

แหล่งที่มา : ก้าน อันนานนท์ – ไพศาล รางชางกูร – อัครวิทย์ สุมาวงศ์

ย่อสั้น

จำเลยเข้าไปในบ้านของโจทก์โดยมีปืนเป็นอาวุธ เพื่อจะตกลงกับโจทก์เรื่องดำเนินกิจการต้มหอยแล้วปล่อยให้มีกลิ่นเหม็นนับว่าเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร แม้จะมีปืนติดตัวไปด้วยก็ไม่ทำให้การเข้าไปนั้นกลับไม่มีเหตุอันสมควรอันจะเป็นความผิดฐานบุกรุกแต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านของโจทก์และใช้อาวุธปืนจ้องยิงโจทก์ให้ถึงแก่ความตาย จำเลยได้กระทำไปตลอดแล้วแต่ไม่บรรลุผล เพราะมีผู้ขัดขวางปัดอาวุธปืนและแย่งอาวุธปืนไปได้ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 365
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365 ประกอบด้วยมาตรา 362 จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาทโทษจำคุกเห็นสมควรรอไว้มีกำหนด 1 ปี หากไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามมาตรา 29, 30 ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องในข้อหาบุกรุกด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์กับจำเลยบ้านอยู่ใกล้กัน โจทก์ดำเนินกิจการต้มหอยและมีโรงต้มหอยอยู่ใกล้หน้าบ้านโจทก์และจำเลย จำเลยให้โจทก์หยุดกิจการต้มหอยเพราะมีกลิ่นเหม็น แต่โจทก์ไม่ยอม จำเลยจึงได้แจ้งต่อเทศบาลเมืองหาดใหญ่ให้ดำเนินการกับโจทก์ ทางเทศบาลเมืองหาดใหญ่ได้แจ้งคำเตือนไปยังโจทก์ โจทก์จึงหยุดดำเนินกิจการต้มหอย
พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่า พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องกันฟังได้ว่าจำเลยเข้าไปในบ้านของโจทก์โดยมีปืนเป็นอาวุธ เนื่องจากต้องการจะตกลงกับโจทก์เรื่องปล่อยให้เปลือกหอยมีกลิ่นเหม็นซึ่งถือได้ว่าไม่มีเหตุอันสมควร จึงเป็นความผิดฐานบุกรุกนั้นเห็นว่า ฎีกาโจทก์ดังกล่าวยอมรับข้อเท็จจริงว่า จำเลยเข้าไปในบ้านโจทก์ เนื่องจากต้องการจะตกลงกับโจทก์ เรื่องปล่อยให้เปลือกหอยส่งกลิ่นเหม็น แม้จำเลยจะได้เข้าไปในบ้านโจทก์จริง การที่เข้าไปก็เพื่อจะตกลงเรื่องที่โจทก์ดำเนินกิจการต้มหอยแล้วทำให้เปลือกหอยส่งกลิ่นเหม็น การเข้าไปเช่นนี้นับว่ามีเหตุอันสมควร การมีปืนติดตัวไปด้วยหรือไม่ ไม่เป็นข้อสำคัญ เมื่อการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรแล้ว แม้จะมีปืนติดตัวไปด้วย ก็ไม่ทำให้การเข้าไปนั้นกลับไม่มีเหตุอันสมควร อันจะเป็นความผิดฐานบุกรุก ฉะนั้นแม้จำเลยจะกระทำอย่างที่โจทก์ฎีกา ก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิดฐานบุกรุกศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share