คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3402/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือมอบอำนาจของโจทก์มีข้อความมอบอำนาจให้รองผู้อำนายการ (บริหาร) ปฏิบัติการแทนผู้อำนวยการ ในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องคดีความทั้งหมดที่เกี่ยวเนื่องกับองค์การโจทก์ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา แม้จะเป็นการมอบอำนาจให้รองผู้อำนวยการ(บริหาร) โดยตำแหน่งหน้าที่ซึ่งมิได้เป็นบุคคลหรือนิติบุคคลก็ตาม ก็มีผลใช้บังคับได้ บุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ (บริหาร) จึงมีอำนาจดำเนินคดีแทนโจทก์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นรัฐวิสาหกิจ ได้มอบอำนาจให้รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารฟ้องคดีนี้ จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ เป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุก จำเลยที่ ๔ เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวไว้ในลักษณะประกันภัยค้ำจุน จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างและขับรถไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ด้วยความประมาทชนรถยนต์โดยสารประจำทางของโจทก์เสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๔๕,๙๔๐ บาท ขอให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินดังกล่าวแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ ๑ ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยที่ ๒ และที่ ๔ ให้การร่วมกันว่า หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ท้ายฟ้องระบุมอบอำนาจให้แก่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารซึ่งไม่ใช่บุคคลหรือนิติบุคคลจึงไม่ชอบ นายยรรยงจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ จำเลยที่ ๑ ไม่ได้เป็นลูกจ้างและขับรถไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยที่ ๔ รับประกันภัยรถยนต์บรรทุกไว้จากจำเลยที่ ๒ จริง แต่ข้อสัญญามีวงเงินรับผิดไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท เหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์ของโจทก์ ค่าเสียหายไม่ถึงที่โจทก์ฟ้อง
จำเลยที่ ๓ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๒ และที่ ๔ ร่วมกันชดใช้เงินแก่โจทก์ ๑๒๘,๒๑๓ บาท ๕๓ สตางค์ พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๒ และที่ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒ และที่ ๔
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ท้ายฟ้องเป็นคำสั่งของโจทก์ที่มีข้อความมอบอำนาจให้รองผู้อำนวยการ (บริหาร) ปฏิบัติการแทนผู้อำนวยการในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องคดีความทั้งหมดที่เกี่ยวเนื่องกับองค์การโจทก์ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา คำสั่งดังกล่าวแม้จะเป็นการมอบอำนาจให้รองผู้อำนวยการ (บริหาร) ของโจทก์โดยตำแหน่งหน้าที่ซึ่งมิได้เป็นบุคคลหรือนิติบุคคลก็ตามก็มีผลใช้บังคับได้ ดังนั้น บุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ (บริหาร) ของโจทก์จึงมีอำนาจดำเนินคดีแทนโจทก์และฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่านายยรรยงซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารดำเนินคดีแทนโจทก์และฟ้องจำเลยได้นั้นชอบแล้ว
จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ ได้กระทำละเมิดในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดด้วย ส่วนจำเลยที่ ๔ ได้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์บรรทุกไว้โดยจำกัดความรับผิดไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐บาท จึงต้องรับผิดตามข้อสัญญาในวงเงินไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท และโจทก์เสียหายตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด
พิพากษาแก้เป็นให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เว้นแต่จำเลยที่ ๔ ให้รับผิดชดใช้เงินแก่โจทก์ในวงเงินไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

Share