แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กับ ท. ทำบันทึกข้อตกลงเลิกคดีกัน โดยรับว่าสัญญาจะซื้อขายได้ทำขึ้นโดยไม่ถูกต้องทำนองคลองธรรม และจะไม่ฟ้อง ท. กับทายาทเกี่ยวกับที่ดินพิพาทในทุกกรณีบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาซึ่งโจทก์กับ ท. ทำขึ้นเพื่อระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 มีผลให้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะขอให้ ท. หรือจำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ท. ปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายได้ระงับสิ้นไปตามมาตรา 852 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นางทุยได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินเฉพาะส่วนตามโฉนดเลขที่ ๕๕ ให้โจทก์ โจทก์ได้ชำระเงินมัดจำและชำระราคาที่ดินบางส่วนให้นางทุยแล้ว นางทุยบิดพลิ้วไม่ยอมโอนที่ดิน โจทก์จึงฟ้องนางทุยเป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง นางทุยกับพวกได้ร้องเรียนต่อคณะปฏิวัติ คณะปฏิวัติหลงเชื่อจับกุมโจทก์ไปคุมขังโจทก์ถูกข่มขู่ จึงขอถอนฟ้อง และทำบันทึกว่าจะไม่ดำเนินคดีอีก โจทก์ไม่ได้รับความเป็นธรรมและทราบว่านางทุยได้โอนขายที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้แก่จำเลย เป็นการสมรู้กันเพื่อหลบการบังคับตามสัญญาจะขายที่ดินที่นางทุยทำไว้แก่โจทก์ ขอให้บังคับให้เพิกถอนหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินเฉพาะส่วนของที่ดินโฉนดเลขที่ ๕๕ ให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า นางทุยและบิดาจำเลยเคยร้องทุกข์ต่อกองอำนวยการป้องกันและปราบปรามบุคคลผู้เป็นภัยต่อสังคมว่าโจทก์กับนายจำลองหลอกลวงนางทุยให้ทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดิน ต่อมาโจทก์และนายจำลองสำนึกผิดรับว่านางทุยไม่ได้รับเงินไปจากโจทก์ จึงได้ทำบันทึกประนีประนอมยอมความต่อเจ้าหน้าที่ฯ โจทก์ไม่ถูกข่มขู่ โจทก์หมดสิทธิฟ้องร้องแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า บันทึกข้อตกลงระหว่างโจทก์กับนางทุยได้กระทำขึ้นโดยโจทก์ไม่ได้ถูกข่มขู่ และวินิจฉัยว่า โจทก์กับนางทุยได้ทำบันทึกข้อตกลงเลิกคดีโดยรับว่าสัญญาจะซื้อขายได้ทำขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามธรรมนองคลองธรรม และจะไม่ฟ้องนางทุยกับทายาทเกี่ยวกับที่ดินพิพาทในทุกกรณี บันทึกข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นสัญญาซึ่งโจทก์กับนางทุยทำขึ้นเพื่อระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยต่างฝ่ายต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๘๕๐ ซึ่งมีผลให้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะขอให้นายทุยหรือจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายได้ระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๕๒ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน