แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราแล้วหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้เป็นความผิด 3 กระทง
จำเลยที่ 1 นัดหมายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้จำเลยที่ 3 ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ 2 ตามหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งกลับจากปัสสาวะ และจำเลยที่ 3 ก็ตรงไปเอารถจักรยานอันเป็นพาหนะของจำเลยที่ 1 และผู้เสียหายไป แล้วจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไป เช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำความผิด จำเลยที่ 3 จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 318
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันพรากนางสาวอารมณ์ผู้เยาว์อายุ ๑๖ ปี ไปเสียจากบิดามารดาโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วยเพื่อการอนาจาร และจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ กับพวกอีกคนหนึ่งร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายไว้ในที่พักและจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายคนละครั้ง แล้วจำเลยที่ ๑ กับพวกอีกคนหนึ่งร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายไว้ในที่พักอีกแห่งหนึ่งและจำเลยที่ ๑ ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอีกหลายครั้ง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๑, ๒๗๖, ๓๑๐, ๓๑๘
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๓๑๐ และ ๓๑๘ จำเลยที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๖ จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ลงโทษตามมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง กระทงหนึ่ง ลงโทษตามมาตรา ๓๑๐ กระทงหนึ่ง ลงโทษตามมาตรา ๓๑๘ กระทงหนึ่ง
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายมิได้สมัครใจไปกับจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ จึงได้แสดงกิริยาขัดขืนจนถูกจำเลยที่ ๑ ทำร้ายและถูกจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ฉุดลากไป ครั้นถึงเขาลูกเล็กจำเลยที่ ๑ ก็ทำร้ายผู้เสียหายบังคับให้นั่งลงและผลักผู้เสียหายให้นอนหงาย แล้วจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ก็ใช้กำลังบังคับถอดเสื้อและกางเกงของผู้เสียหายออก จำเลยที่ ๒ เหยียบแขนทั้งสองข้างของผู้เสียหายไว้ จำเลยที่ ๑ ชกท้องผู้เสียหายและข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย แล้วจำเลยที่ ๑ จับแขนผู้เสียหายเปลี่ยนให้จำเลยที่ ๒ ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายบ้าง เช่นนี้เป็นการพรากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร โดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปด้วย และข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ควบคุมและบังคับผู้เสียหายอยู่ตลอดเวลาที่บ้านนางแมวตอนที่อยู่บ้านนายเที่ยงจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ก็ควบคุมและบังคับผู้เสียหายให้อยู่แต่ในบ้าน และขู่ว่าถ้าหลบหนีจะฆ่าให้ตาย จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ยังข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอีก แม้แต่ผู้เสียหายไปถ่ายอุจจาระจำเลยที่ ๑ ก็ตามไปเฝ้าไว้ การกระทำของจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
ที่จำเลยที่ ๓ ออกมาจากพุ่มไม้ข้างทางกับจำเลยที่ ๒ และตามหลังจำเลยที่ ๑ ซึ่งกลับจากปัสสาวะ เป็นการที่จำเลยที่ ๑ ได้นัดหมายกับจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ไว้ และจำเลยที่ ๓ ก็ตรงไปเอารถจักรยานยนต์อันเป็นพาหนะของจำเลยที่ ๑ และผู้เสียหายไปเสีย แล้วจำเลยที่ ๑ กับที่ ๒ ก็เข้าใช้กำลังประทุษร้ายพรากผู้เสียหายไปเช่นนี้ เป็นการให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ กระทำความผิด จำเลยที่ ๓ จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖, ๓๑๘
พิพากษาแก้เป็นว่า ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ ๒ กึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๕ จำคุกจำเลยที่ ๒ ตามมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง ตามมาตรา ๓๑๐ และตามมาตรา ๓๑๘ ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ตามมาตรา ๙๑ และให้คงจำคุกจำเลยที่ ๒