คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 879 บัญญัติว่าผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในเมื่อความวินาศภัยหรือเหตุอื่นซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้นได้เกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์นั้น เป็นบทบัญญัติที่ยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัย จึงต้องตีความโดยเคร่งครัดว่าหมายถึงความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์เองเท่านั้น ไม่หมายรวมถึง ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของลูกจ้างผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ไปในทางการที่จ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 2 ด้วยความประมาทชนรถโจทก์ได้รับความเสียหายและโจทก์ได้รับบาดเจ็บ ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 1 มิใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 แต่จำเลยที่ 1 ยืมรถของจำเลยที่ 2 ไปใช้แล้วเกิดเหตุขึ้น การชนกันเกิดเพราะความประมาทของโจทก์ โจทก์เรียกค่าเสียหายสูงเกินความจริง และฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยที่ 2 ขอให้หมายเรียกบริษัทไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วมเพราะบริษัทดังกล่าวเป็นผู้รับประกันภัยวินาศภัยรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต

บริษัทไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด จำเลยร่วมให้การทำนองเดียวกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และให้การด้วยว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ไม่อยู่ในสภาพที่จะขับรถยนต์ได้ เนื่องจากหลับในในขณะขับรถ อันเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จำเลยร่วมจึงไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองและจำเลยร่วม ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยร่วมผู้เดียวอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยร่วมฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 879 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในเมื่อความวินาศภัยหรือเหตุอื่นซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้นได้เกิดขึ้นเพราะความทุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ ฯลฯ” นั้น เป็นบทบัญญัติที่ยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัย จึงต้องตีความโดยเคร่งครัดว่าหมายถึงความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือของผู้รับประโยชน์เท่านั้น แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้เอาประกันภัยและมิได้เป็นผู้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จำเลยร่วมผู้รับประกันภัยจึงไม่พ้นความรับผิด

พิพากษายืน

Share