คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3243/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ที่ระบุว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนร่วมในการกระทำผิด แม้จะเป็นคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน ซึ่งตามลำพังจะมีน้ำหนักน้อย แต่เมื่อฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นที่โจทก์นำมาสืบแล้วย่อมรับฟังเพื่อสนับสนุนพยานหลักฐานอื่นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 339, 340, 340 ตรี และขอให้ริบของกลางที่เหลือทั้งหมดนอกจากรถยนต์ กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เงินจำนวน 53,500 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง, 340 ตรี, 83 จำคุกคนละ22 ปี 6 เดือน ลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสาม จำเลยที่ 2 และที่ 3กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 15 ปี จำเลยที่ 2 และที่ 3 คนละ 11 ปี 3 เดือน ของกลางยกเว้นรถยนต์ให้ริบ ให้จำเลยทั้งสามคืนเงิน 53,500 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นอกจากนี้โจทก์มีคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ซึ่งให้การถึงการกระทำของจำเลยที่ 1ว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดอย่างไรบ้าง แม้จะเป็นคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกันซึ่งตามลำพังจะมีน้ำหนักน้อยแต่เมื่อฟังประกอบพยานหลักฐานอื่นที่โจทก์นำสืบมาแล้วย่อมนำมาเพื่อสนับสนุนพยานหลักฐานอื่นได้
พิพากษายืน

Share