คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขวันที่ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นเรื่องขอแก้ไขรายละเอียดในฟ้องเท่านั้น มิใช่เป็นการขอแก้ไขคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179 ไม่อยู่ในบังคับที่ต้องขอแก้ไขในระยะเวลาตามมาตรา 180

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คมอบให้แก่ผู้มีชื่อนำไปมอบชำระหนี้แก่โจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเข้าบัญชี แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดตามเช็ค ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 30,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องก่อนส่งสำเนาให้จำเลย และมิได้ฟังจำเลยก่อนว่าจะคัดค้านหรือไม่ ทั้งเป็นการขอแก้ไขคำฟ้องภายหลังจากการชี้สองสถานแล้วเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา180 วรรค 2 นั้น คดีได้ความว่าหลังจากศาลทำการชี้สองสถานไปแล้วโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขวันที่ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในฟ้องจากวันที่ 18 สิงหาคม 2529 เป็นวันที่ 15 สิงหาคม 2529 อ้างว่าพิมพ์ผิดพลาด ศาลชั้นต้นสั่งว่า “สำเนาให้จำเลย เป็นการแก้ไขเล็กน้อย อนุญาต” ดังนี้ เห็นว่า เป็นเรื่องขอแก้ไขรายละเอียดในฟ้องเท่านั้นมิใช่เป็นการขอแก้ไขคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179 ไม่อยู่ในบังคับที่ต้องขอแก้ไขในระยะเวลาตามมาตรา 180 ศาลมีอำนาจที่จะสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ไขได้โดยไม่จำต้องฟังจำเลยก่อนว่าจะคัดค้านหรือไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share