คำสั่งคำร้องที่ 142/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในวันที่18 มกราคม 2532 แต่เนื่องจากนายอินทร์หรือทองอินทร์ม่วงมูลตรีจำเลยที่ 3 ได้ถึงแก่กรรมลง ผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 3 และเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ด้วยมีความประสงค์ขอเข้ารับมรดกความแทนที่จำเลยที่ 3 โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ศาลชั้นต้นสอบผู้ร้องแล้วแถลงว่าเป็นภริยาของจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 3 ถึงแก่กรรมไปแล้วจริง กับสอบโจทก์แล้วแถลงไม่คัดค้าน (สำนวนตอน 2 อันดับ 29)
คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยเรียกโจทก์ในสำนวนแรกซึ่งเป็นจำเลยในสำนวนหลังว่าโจทก์ เรียกจำเลยที่ 1 ในสำนวนแรกซึ่งเป็นโจทก์ที่ 2 ในสำนวนหลังว่าจำเลยที่ 1เรียกจำเลยที่ 2 ในสำนวนแรกซึ่งเป็นโจทก์ที่ 1 ในสำนวนหลังว่าจำเลยที่ 2 และเรียกจำเลยที่ 3 ในสำนวนแรกว่าจำเลยที่ 3
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 ที่ 2ห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้โจทก์คืนเงินค่าชดเชยที่ดินแปลงทิศตะวันตกของทางหลวง 2,020 บาท แก่จำเลย ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ขับไล่จำเลยทั้งสามและบริวารออกไปจากที่นาชื่อทุ่งนาน้อยหรือนาทุ่งบ้านส่วนของโจทก์ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 2578 ห้ามจำเลยทั้งสามเกี่ยวข้อง กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ2,000 บาท นับแต่วันที่ 4 กันยายน 2523 ที่โจทก์ฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสามและบริวารจะออกจากที่ดินพิพาท ฯลฯ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ฎีกา (สำนวนตอน 1 อันดับ 158)
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จ ส่งไปให้ศาลชั้นต้นเพื่ออ่านให้คู่ความฟัง
ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว(สำนวนตอน 2 อันดับ 28)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยที่ 3ผู้มรณะได้ตามคำร้อง

Share