คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3233/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์จะขอให้เจ้าพนักงานที่ดินจัดการเพิกถอนชื่อโจทก์แล้วใส่ชื่อจำเลยหาได้ไม่ เพราะโจทก์ไม่มีหน้าที่อย่างใดในทางนิติกรรมที่จะต้องโอนที่พิพาทให้แก่จำเลย เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องดำเนินการให้มีชื่อของตนในโฉนดต่อไป

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาเข้าด้วยกัน สำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทตามโฉนดเลขที่ ๑๒๑๘๖ ตำบลปรุใหญ่ (โพธิ์กลาง) อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา จำเลยทั้งสองและบริวารได้บุกรุกเข้าครอบครองที่พิพาททั้งแปลงขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาทกับให้ใช้ค่าเสียหาย
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์มีชื่อในโฉนดที่ดินเท่านั้นแต่หามีกรรมสิทธิ์ไม่ เพราะจำเลยทั้งสองครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้ว ขอให้ยกฟ้อง
สำนวนหลังจำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ที่พิพาทตามโฉนดเลขที่ ๑๒๑๘๖ ขอให้เพิกถอนชื่อผู้เป็นเจ้าของที่ดินในโฉนดออกเสียและใส่ชื่อจำเลยที่ ๑ แทน
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยที่ ๑ ไม่ได้ครอบครองที่พิพาทอย่างเป็นเจ้าของโดยเปิดเผย และมิได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๐ ปี ขอให้ยกคำร้องขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกไปจากที่พิพาทกับให้ใช้ค่าเสียหาย และให้ยกฟ้องคดีของจำเลยที่ ๑ ในสำนวนหลัง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยที่ ๑ ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๒๑๘๖ ให้เพิกถอนชื่อผู้เป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดดังกล่าวออกแล้วใส่ชื่อจำเลยที่ ๑ และให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีฟังได้ว่า จำเลยที่ ๑ ครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเกิน ๑๐ ปี แล้วได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เพิกถอนชื่อโจทก์ตามโฉนดที่พิพาทออกแล้วใส่ชื่อจำเลยที่ ๑ นั้น เห็นว่า จำเลยที่ ๑ ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์เท่านั้นจำเลยที่ ๑ จะขอให้เจ้าพนักงานที่ดินจัดการเพิกถอนชื่อโจทก์และใส่ชื่อจำเลยที่ ๑ หาได้ไม่ เพราะโจทก์ไม่มีหน้าที่อย่างใดในทางนิติกรรมที่จะต้องโอนที่พิพาทให้แก่จำเลยที่ ๑ เป็นหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ เป็นหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ ที่จะต้องดำเนินการให้มีชื่อของตนในโฉนดต่อไป
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของจำเลยที่ ๑ ที่ให้เพิกถอนชื่อผู้เป็นเจ้าของที่ดินออกและใส่ชื่อจำเลยที่ ๑ แทน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share