แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามที่ศาลบันทึกการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์ประกอบกับบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่โจทก์ส่งต่อศาลได้ความว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2532 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นการเล่นการพนันสลากกินรวบงวดใด แต่จำเลยก็ให้การรับสารภาพตามฟ้อง แสดงว่าจำเลยย่อมเข้าใจข้อหาตามฟ้องแล้วมิได้หลงต่อสู้แต่ประการใด จึงหาทำให้ฟ้องของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๓๒ เวลากลางวัน จำเลยกับพวกเล่นการพนันสลากกินรวบอันเป็นการพนันตามบัญชี ข.หมายเลข ๑๖ ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๐, ๑๒, ๑๕ ที่แก้ไขแล้ว ริบของกลางและจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้ว คงจำคุก ๓ เดือน และปรับ ๒,๕๐๐ บาทโทษจำคุกรอการลงโทษไว้ ๑ ปี โดยมีเงื่อนไขคุมประพฤติจำเลย ริบของกลาง และให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษจำคุก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุก ๒ เดือน โดยไม่ปรับ ไม่รอการลงโทษและไม่คุมประพฤติ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายข้อหนึ่งว่า ฟ้องโจทก์มิได้ระบุว่าจำเลยกับพวกเล่นการพนันสลากกินรวบงวดใด จึงยังไม่ครบองค์ประกอบความผิด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องด้วยวาจา ซึ่งตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๑๙ ให้ศาลบันทึกใจความแห่งฟ้องไว้เป็นหลักฐานหาจำต้องบันทึกไว้โดยละเอียดไม่ และก่อนบันทึกฟ้องศาลอาจจะสอบถามโจทก์เกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่จำเลยกระทำความผิดได้ แต่ก็จะบันทึกไว้เฉพาะข้อความสำคัญส่วนบันทึกการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของฟ้องด้วยวาจาของโจทก์เท่านั้น เมื่อพิจารณาใจความที่ศาลบันทึกการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์ประกอบกับบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่โจทก์ส่งต่อศาลแล้วได้ความว่าเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๓๒ จำเลยกับพวกได้ร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบอันเป็นการพนันตามบัญชี ข.หมายเลข ๑๖ ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนี้ แม้ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นการเล่นการพนันสลากกินรวบงวดใด แต่จำเลยก็ให้การรับสารภาพตามฟ้อง แสดงว่าจำเลยย่อมเข้าใจข้อหาตามฟ้องแล้วมิได้หลงต่อสู้แต่ประการใด จึงหาทำให้ฟ้องของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา๑๕๘(๕) ไม่…
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เปลี่ยนโทษจำคุก ๒ เดือน เป็นกักขังแทนกำหนด ๒ เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๓ กับให้ยกคำขอที่ให้จำเลยจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์