คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3222/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์บรรยายว่า โจทก์ประกอบกิจการค้าข้าว และจำเลยประกอบกิจการโรงสีข้าวมีธุรกิจการค้าต่อกัน จำเลยได้ยืมเงินโจทก์จำนวน 362,729.50 บาท ตามหลักฐานการกู้ยืมท้ายฟ้อง โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระ จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยเป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยว่า เหตุใดโจทก์จึงยอมให้จำเลยกู้เงินจำนวนดังกล่าวโดยมิได้กำหนดเวลาชำระเงินคืน และเหตุใดจึงมิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ ไม่จำต้องบรรยายในฟ้องอย่างใด เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นรายละเอียดนำสืบภายหลังได้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
สัญญากู้มิได้กำหนดวันชำระเงินไว้ จำเลยได้กู้ยืมเงินโจทก์วันที่ 31 กรกฎาคม2518 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2528 จึงเป็นการฟ้องคดีภายในกำหนด 10 ปี ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินยืมจำนวน ๓๖๒,๗๒๙.๕๐ บาทและดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้กู้ยืมเงินจากโจทก์ตามฟ้อง หลักฐานการยืมเงินที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นเอกสารปลอม โดยปลอมวันเดือนปีผิดไปจากความจริง ฟ้องเคลือบคลุมและขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์ ๓๖๒,๗๒๙.๕๐ บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ เห็นว่า ฟ้องโจทก์บรรยายว่า โจทก์ประกอบกิจการค้าข้าวและจำเลยประกอบกิจการโรงสีข้าวมีธุรกิจการค้าต่อกันจำเลยได้ยืมเงินโจทก์จำนวน ๓๖๒,๗๒๙.๕๐ บาท ตามหลักฐานการกู้ยืมท้ายฟ้อง โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระ จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ย เป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยว่า เหตุใดโจทก์จึงยอมให้จำเลยกู้เงินจำนวนดังกล่าวโดยมิได้กำหนดเวลาชำระเงินคืน และเหตุใดจึงมิได้กำหนดดอกเบี้ยไว้ ไม่จำต้องบรรยายในฟ้องอย่างใด เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นรายละเอียดนำสืบภายหลังได้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ปัญหาว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความนั้น เห็นว่า ตามหนังสือยืมเงินเอกสารหมาย จ.๒ จำเลยได้กู้ยืมเงินโจทก์วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๑๘ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม๒๕๒๘ จึงเป็นการฟ้องคดีภายในกำหนด ๑๐ ปี ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันให้จำเลยชำระเงิน ๓๖๒,๗๒๙.๕๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share