แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อรั้วในที่ดินของจำเลยโฉนดที่32187 ในส่วนที่ติดกับที่ดินของโจทก์โฉนดที่ 32176เพื่อให้โจทก์สามารถใช้เป็นทางออกสู่ถนนสาธารณะได้ การที่ศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อรั้วในที่ดินโฉนดที่ 32187 โดยไม่ระบุเฉพาะในส่วนที่ติดกับที่ดินของโจทก์โฉนดที่32176 เป็นเรื่องศาลพิพากษาเกินคำขอ มิใช่เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 143 และเมื่อศาลพิพากษาเกินคำขอเช่นว่านี้จำเลยก็มิได้อุทธรณ์ฎีกาในคดีเดิมจนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว จึงเป็นอันยุติ ศาลฎีกาไม่มีอำนาจที่จะแก้ไข
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างให้จำเลยรื้อรั้วในที่ดินโฉนดที่ 32187 เพื่อให้โจทก์สามารถใช้ที่ดินเป็นทางออกสู่ถนนสาธารณะได้ ให้จำเลยจดทะเบียนภารจำยอมในที่ดินโฉนดที่ 32187 ให้เป็นทางออกสู่ถนนสาธารณะแก่โจทก์ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ 32176-32181 ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยมิได้รื้อรั้วพร้อมสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ในที่ดินโฉนดที่ 32187
จำเลยยื่นคำแถลงคัดค้านว่า จำเลยได้รื้อรั้วในที่ดินของจำเลย โฉนดที่ 32187 ส่วนที่ติดกับที่ดินของโจทก์ เพื่อให้โจทก์สามารถออกสู่ถนนสาธารณะได้ส่วนรั้วด้านอื่นและหลังคาโรงรถโจทก์ไม่มีสิทธิขอบังคับให้จำเลยรื้อถอนออกไป เพราะเป็นการนอกเหนือจากคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
ศาลชั้นต้นสั่งให้บังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลโดยให้จำเลยรื้อรั้วตามแนวเส้นสีเขียวในแผนที่พิพาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าคดีนี้โจทก์ขอให้จำเลยรื้อรั้วในที่ดินของจำเลยโฉนดที่ 32187 ในส่วนที่ติดกับที่ดินของโจทก์โฉนดที่ 32176 เพื่อให้โจทก์สามารถใช้เป็นทางออกสู่ถนนสาธารณะได้ แต่ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยรื้อรั้วในที่ดินโฉนดที่ 32187 โดยไม่ระบุเฉพาะในส่วนที่ติดกับที่ดินของโจทก์โฉนดที่ 32176 ดังคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อย ชอบที่จะได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 นั้น เห็นว่าข้อฎีกาของจำเลยดังกล่าวเป็นเรื่องศาลพิพากษาเกินคำขอ มิใช่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อยดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 และกรณีที่ศาลพิพากษาเกินคำขอเช่นว่านี้จำเลยก็มิได้หยิบยกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาในคดีเดิมจนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว จึงเป็นอันยุติ ศาลฎีกาไม่มีอำนาจที่จะแก้ไขแต่ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องรื้อถอนรั้วเฉพาะตามแนวเส้นสีเขียวอักษร ง. – จ. นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์