คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3188/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคำขอท้ายฟ้อง โจทก์ขอให้พิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมยกให้ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 ตามเดิมดังนี้ เมื่อคำขอส่วนที่ให้พิพากษาให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 ไม่อาจบังคับได้ก็ชอบที่ศาลจะพิพากษาให้ยกคำขอเฉพาะส่วนนี้ไป คำฟ้องและคำขอส่วนอื่นที่บังคับได้ศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัย แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งหมด เป็นการไม่พิพากษาคดีตามข้อหาในคำฟ้องทุกข้อที่ได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้แล้ว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ปี พ.ศ. ๒๔๖๔ จำเลยที่ ๒ ได้สมรสกับนางหลาพุ่มพวง มีบุตรด้วยกัน ๙ คน ซึ่งรวมทั้งนายวู๊ด พุ่มพวง นายนุช พุ่มพวง และจำเลยที่ ๑ ระหว่างสมรสจำเลยที่ ๒ และนางหลาได้ซื้อที่ดิน ๑ แปลง ต่อมาจำเลยที่ ๒ และนางหลาได้ทำพินัยกรรมร่วมกันยกที่ดินดังกล่าวให้นายวู๊ดและจำเลยที่ ๑ กับยกบ้านที่ปลูกบนที่ดินนั้นให้แก่นายนุช หลังจากนางหลาถึงแก่กรรม จำเลยที่ ๒ ได้ทำหนังสือยกที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ ๑ ทั้งแปลงโดยไม่มีค่าตอบแทนขอให้พิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมยกให้ระหว่างจำเลยที่ ๑ กับจำเลยที่ ๒ ให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ ๒ ตามเดิม
จำเลยทั้งสองให้การว่า ที่ดินพิพาทมิใช่สินสมรส แต่เป็นของจำเลยที่ ๒ ผู้เดียว ในพินัยกรรมระบุไว้ว่า ให้ผู้มีสิทธิรับมรดกตามพินัยกรรมออกค่าทำศพและทำบุญให้กับเจ้ามรดก ถ้าไม่ออกให้ ก็ไม่มีสิทธิรับมรดกปรากฏว่านายวู๊ดและนายนุชมิได้ปฏิบัติตามข้อกำหนด จึงไม่มีสิทธิรับมรดก
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การที่โจทก์ขอให้พิพากษาเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดิน ให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ ๒ ซึ่งมิใช่เจ้าของนั้น ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้พิพากษาเช่นนั้น คำขอของโจทก์ไม่อาจบังคับให้ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพยานหลักฐานทั้งสองฝ่าย แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ขอให้พิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมยกให้ระหว่างจำเลยที่ ๑ กับจำเลยที่ ๒ ให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ ๒ ตามเดิม เห็นว่า คำขอส่วนที่พิพากษาให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ ๒ ไม่อาจบังคับได้ ก็ชอบที่ศาลจะพิพากษาให้ยกคำขอเฉพาะส่วนนี้ไป คำฟ้องและคำขอส่วนอื่นที่บังคับได้ ศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัย แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งหมดเป็นการไม่พิพากษาตามข้อหาในคำฟ้องทุกข้อที่ได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้แล้ว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share