แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีนี้เมื่อศาลแรงงานเห็นสมควรยกปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ขึ้นวินิจฉัย แสดงว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแล้วว่าคดีนี้จะอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานหรือไม่ ตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 9 วรรคสอง ที่บัญญัติให้อำนาจแก่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นเป็นผู้วินิจฉัย เมื่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดว่าคดีนี้จะอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานหรือไม่การที่ศาลแรงงานกลางเป็นผู้วินิจฉัยเสียเองว่าคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางจึงเป็นการไม่ชอบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญารับจ้างเฝ้ารักษาไม้ของโจทก์โดยสัญญาว่าถ้าไม้สูญหายหรือเสียหายไม่ว่าด้วยประการใด ๆ จำเลยยอมให้โจทก์ปรับจำเลยตรวจสอบและรับไม้ไว้ถูกต้องแล้วในวันทำสัญญาต่อมาไม้ตามสัญญาจ้างเฝ้ารักษาซึ่งจะส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อได้สูญหายไป ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานโดยให้จำเลยชำระค่าปรับตามสัญญาจ้างเฝ้ารักษาไม้ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายที่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ และให้ชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวจนถึงวันฟ้องเป็นเงิน 143,114.36 บาท รวมเป็นเงิน 374,891.36 บาทและให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินจำนวน 231,777 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดีขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า โจทก์อุทธรณ์ว่าสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาจ้างให้ทำงานโดยคำนึงถึงระยะเวลาให้ทำงานและตกลงจ่ายค่าจ้างตามระยะเวลาที่ทำงานให้ อีกทั้งอำนาจการครอบครองไม้อยู่แก่โจทก์ผู้ว่าจ้าง จำเลยซึ่งเป็นผู้รับจ้างเพียงแต่เฝ้ารักษามิให้ไม้สูญหายหรือเป็นอันตรายเท่านั้นข้อพิพาทตามสัญญาดังกล่าวจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงาน ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 8(1) คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาศาลแรงงานกลางพิเคราะห์แล้ว เห็นสมควรวินิจฉัยเสียก่อนว่า ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัย เสียเองว่าคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานนั้นชอบหรือไม่ หรือว่าต้องให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางเป็นผู้วินิจฉัย พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 9 วรรคสองบัญญัติว่า “ในกรณีมีปัญหาว่าคดีใดจะอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานหรือไม่ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในศาลแรงงานหรือศาลอื่นให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางเป็นผู้วินิจฉัย คำวินิจฉัยของอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางให้เป็นที่สุด” เห็นว่าคดีนี้เมื่อศาลแรงงานกลางเห็นสมควรยกปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์ขึ้นวินิจฉัย แสดงว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแล้วว่าคดีนี้จะอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานหรือไม่ ต้องตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 9 วรรคสอง ที่บัญญัติให้อำนาจแก่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นเป็นผู้วินิจฉัยศาลแรงงานกลางหามีอำนาจวินิจฉัยเสียเองไม่ เมื่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดว่าคดีนี้จะอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานหรือไม่ การที่ศาลแรงงานกลางเป็นผู้วินิจฉัยเสียเองว่าคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางจึงเป็นการไม่ชอบ
พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางส่งสำนวนให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางวินิจฉัยเสียก่อนว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานหรือไม่ แล้วดำเนินการต่อไป