คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3170/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

เมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้วศาลชั้นต้นได้ออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาภายใน30วันและได้ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยโดยวิธีปิดประกาศหน้าศาลเมื่อวันที่3สิงหาคม2521หลังจากครบกำหนดตามคำบังคับแล้วโจทก์ได้ดำเนินการขอให้ศาลบังคับคดีขับไล่บริวารจำเลยออกไปจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตลอดมาและเมื่อวันที่4พฤศจิกายน2526ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับจำเลยมาเพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาต่อไปศาลชั้นต้นสั่งให้หมายเรียกจำเลยมาสอบถามในวันที่27ธันวาคม2526จำเลยรับหมายเรียกวันที่11ธันวาคม2527ถึงวันนัดสอบถามจำเลยก็แถลงว่ายังอยู่ในที่พิพาทและขอเวลาขนย้ายทรัพย์สินออกไปภายใน2เดือนการที่จำเลยอยู่ในที่พิพาทและแถลงยินยอมออกไปจากที่พิพาทแสดงว่าจำเลยได้ทราบถึงการถูกฟ้องการส่งคำบังคับและการบังคับตามคำพิพากษาที่กระทำกันมาแต่ต้นเป็นอย่างดีแล้วจำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่วันที่11มกราคม2526จึงเป็นการยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่เกินกำหนดเวลา15วันนับแต่พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้สิ้นสุดลงทั้งยังพ้นกำหนด6เดือนนับแต่วันที่มีการบังคับตามคำพิพากษาจำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ทั้ง สี่ และ นาย ชลอ สุภาแพ่ง ได้ ตกลง ให้จำเลย ปลูกสร้าง อาคาร โรงภาพยนตร์ และ ตึกแถว สาม ชั้น ใน ที่ดิน ของโจทก์ ตาม แบบแปลน ที่ ทาง เทศบาล เมือง เพชรบุรี อนุญาต โดย จำเลย มีหน้าที่ ออก ค่าใช้จ่าย ใน การ ก่อสร้าง ทั้งสิ้น เมื่อ จำเลย ก่อสร้างเสร็จแล้ว โจทก์ ยินยอม ให้ จำเลย เช่า โรงภาพยนตร์ และ ตึกแถว ดังกล่าวปรากฏ ว่า จำเลย ก่อสร้าง ผิด แบบแปลน โจทก์ จึง บอกเลิก สัญญา กับจำเลย ขอ ให้ จำเลย รื้อถอน โรงภาพยนตร์ และ ตึกแถว กับ สิ่งปลูกสร้างออก ไป จาก ที่ดิน ของ โจทก์ หาก จำเลย ไม่ จัดการ รื้อถอน ให้ โจทก์รื้อถอน เอง โดย จำเลย เป็น ผู้ ออก ค่าใช้จ่าย ห้าม จำเลย และ บริวารเข้า เกี่ยวข้อง กับ ที่ดิน ของ โจทก์ ต่อไป และ ให้ จำเลย ใช้ค่าเสียหาย
จำเลย ขาดนัด ยื่น คำให้การ และ ขาดนัด พิจารณา
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ยกฟ้อง แต่ ไม่ ตัด สิทธิ โจทก์ที่ จะ ฟ้อง เรียก ค่าเสียหาย อัน เนื่องจาก การ ผิด สัญญา จาก จำเลย
โจทก์ ทั้ง สี่ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
โจทก์ ทั้ง สี่ ฎีกา
ศาลฎีกา พิพากษา แก้ เป็น ว่า ห้าม จำเลย และ บริวาร เข้า เกี่ยวข้องกับ ที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้าง ของ โจทก์
เมื่อ ศาลชั้นต้น อ่าน คำพิพากษา ศาลฎีกา แล้ว ศาลชั้นต้น ออก คำบังคับให้ จำเลย ปฏิบัติ ตาม คำพิพากษา ศาลฎีกา ภายใน 30 วัน โดย ปิด ประกาศไว้ ที่ หน้า ศาล เมื่อ วันที่ 3 สิงหาคม 2521 หลังจาก ครบ กำหนด ตามคำบังคับ แล้ว โจทก์ ได้ ดำเนินการ บังคับ ให้ บริวาร ของ จำเลย ออก ไปจาก ที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้าง ของ โจทก์ ต่อมา วันที่ 4 พฤศจิกายน2526 ได้ ยื่น คำร้อง ขอ ให้ ออกหมาย จับ จำเลย มา เพื่อ ปฏิบัติ ตามคำพิพากษา ต่อไป ศาลชั้นต้น สั่ง ให้ หมายเรียก จำเลย มา สอบถาม วันที่27 ธันวาคม 2526 เวลา 13.30 นาฬิกา จำเลย ได้ รับ หมายเรียก ของ ศาลศาลชั้นต้น วันที่ 11 ธันวาคม 2526 โดย วิธี วางหมาย ถึง วันนัด สอบถามจำเลย แถลงว่า ยังอยู่ ใน ที่ พิพาท ขอ เวลา ขนย้าย ทรัพย์สิน ออก ไปภายใน 2 เดือน โจทก์ ยอม ตาม ที่ ขอ
วันที่ 11 มกราคม 2527 จำเลย ยื่น คำขอ ให้ พิจารณา ใหม่ อ้าง ว่าการ ดำเนินคดี ของ โจทก์ ตั้งแต่ ฟ้อง จน ถึง ชั้น บังคับคดี จำเลยไม่ ทราบ เพราะ จำเลย ย้าย ภูมิลำเนา ไป อยู่ ที่อื่น ไม่ ได้ อยู่ ที่ภูมิลำเนา ตาม ฟ้อง จำเลย เพิ่ง ทราบ ว่า ถูก ฟ้อง ต่อ เมื่อ ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้ นำ หมายเรียก ของ ศาลแพ่ง มา ส่ง ให้ แก่ จำเลย เพื่อไป สอบถาม เมื่อ วันที่ 27 ธันวาคม 2526 จำเลย มิได้ เจตนา ขาดนัดยื่น คำให้การ และ ขาดนัด พิจารณา คดี จำเลย มี ทาง ชนะ คดี โจทก์ ได้
ศาลชั้นต้น สั่ง คำ ขอ ของ จำเลย ว่า จำเลย ยื่น คำขอ ให้ พิจารณา ใหม่เมื่อ พ้น กำหนด 6 เดือน นับแต่ วัน ที่ มี การ บังคับ ตาม คำพิพากษาให้ ยก คำขอ
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา กลับ ให้ รับ คำขอ ให้ พิจารณา ใหม่ ของ จำเลย ไว้ดำเนินการ ต่อไป
โจทก์ ทั้งสี่ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี นี้ ได้ความ ว่า เมื่อ ศาลฎีกา พิพากษา แล้วศาลชั้นต้น ได้ ออก คำบังคับ ให้ จำเลย ปฏิบัติ ตาม คำพิพากษา ศาลฎีกาภายใน 30 วัน และ ได้ ส่ง คำบังคับ ให้ แก่ จำเลย โดย ปิด ประกาศ หน้าศาล เมื่อ วันที่ 3 สิงหาคม 2521 หลังจาก ครบ กำหนด ตาม คำ บังคับ แล้วโจทก์ ก็ ได้ ดำเนินการ ขอ ให้ ศาล บังคับ คดี ขับไล่ บริวาร จำเลย ออกไป จาก ที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้าง ของ โจทก์ ตลอดมา และ เมื่อ วันที่4 พฤศจิกายน 2526 ได้ ยื่น คำร้อง ขอ ให้ ศาล ออก หมายจับ จำเลย มาเพื่อ ปฏิบัติ ตาม คำพิพากษา ต่อไป ศาลชั้นต้น สั่ง ให้ หมายเรียกจำเลย มา สอบถาม ใน วันที่ 27 ธันวาคม 2526 จำเลย รับ หมายเรียก เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2526 ถึง วัน นัด สอบถาม จำเลย ก็ แถลง ว่า ยัง อยู่ใน ที่ พิพาท และ ขอ เวลา ขนย้าย ทรัพย์สิน ออก ไป ภายใน 2 เดือนการ ที่ จำเลย อยู่ ใน ที่ พิพาท และ แถลง ยินยอม ออก ไป จาก ที่ พิพาทดังกล่าว แสดงว่า จำเลย ได้ ทราบ ถึง การ ถูกฟ้อง การ ส่ง คำบังคับและ การ บังคับ ตาม คำพิพากษา ที่ กระทำ กัน มา แต่ ต้น เป็น อย่างดีแล้ว จำเลย ยื่น คำขอ ให้ พิจารณา ใหม่ วันที่ 11 มกราคม 2526 จึง เป็นการ ยื่น คำขอ ให้ พิจารณา ใหม่ เกิน กำหนด เวลา 15 วัน นับแต่พฤติการณ์ นอกเหนือ ไม่ อาจ บังคับ ได้ สิ้นสุด ลง ทั้ง ยัง พ้น กำหนด6 เดือน นับแต่ วัน ที่ มี การ บังคับ ตาม คำพิพากษา จำเลย จึง ไม่ มีสิทธิ ขอ ให้ พิจารณา ใหม่ ได้
พิพากษา กลับ ให้ ยก คำขอ ให้ พิจารณา ใหม่ ของ จำเลย ตาม คำสั่งศาลชั้นต้น

Share