คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3146/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คดีก่อน ท. ฟ้องจำเลยทั้งสองขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมฉบับเดียวกันนี้เป็นโมฆะ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ในคดีนี้ได้เข้าร่วมเป็นโจทก์กับ ท.ทั้งไม่ปรากฏว่าท. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายอันจะถือว่าเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนทายาทรวมทั้งโจทก์ด้วย การที่ทายาทคนหนึ่งได้ยื่นฟ้องคดีไว้แล้วจะถือว่าเป็นการฟ้องคดีแทนทายาทคนอื่น ๆ ด้วย หาได้ไม่ ฉะนั้นโจทก์คดีนี้จึงไม่ใช่โจทก์คนเดียวกับคดีก่อน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้อน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมเป็นพินัยกรรมปลอมตกเป็นโมฆะไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การว่า พินัยกรรมดังกล่าวเป็นพินัยกรรมสมบูรณ์และคดีโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นายทุ่น เจ๊ะดะระหมาน ทายาทของนายหมาดเคยฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า พินัยกรรมเป็นโมฆะใช้บังคับไม่ได้มาครั้งหนึ่งแล้ว ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 146/2526 หมายเลขแดงที่183/2528 ของศาลชั้นต้น คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ การที่โจทก์มาฟ้องอ้างว่าเป็นทายาทของนายหมาด และขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมฉบับเดียวกันนี้เป็นพินัยกรรมปลอมใช้บังคับไม่ได้อีก จึงเป็นการรื้อร้องฟ้องคดีโดยอาศัยสภาพแห่งข้อหาอย่างเดียวกัน ซึ่งทายาทคนก่อนเคยยื่นฟ้องไว้แล้ว ถือได้ว่าเป็นการฟ้องคดีแทนทายาทคนอื่นด้วย ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้อนต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 173(1) พิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยโดยกำหนดค่าทนายความ 2,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ตามประเด็นที่กำหนดไว้ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศษล ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อพิพากษา
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ก่อนคดีนี้นายทุ่น เจ๊ะดะระหมาน ทายาทคนหนึ่งของนายหมาด เจ๊ะดะระหมานเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะปรากฏในสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 183/2528 ของศาลชั้นต้นคดีดังกล่าวศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยทั้งสองมีว่าฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้อนหรือไม่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง(1) บัญญัติว่า “นับแต่เวลาที่ได้ยื่นคำฟ้องแล้วคดีนั้นอยู่ในระหว่างพิจารณาและผลแห่งการนี้
(1) ห้ามไม่ให้โจทก์ยื่นฟ้องเรื่องเดียวกันขึ้นต่อศาลเดียวกันหรือต่อศาลอื่น” เห็นว่าคดีก่อนที่นายทุ่นฟ้องจำเลยทั้งสอง ขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมฉบับเดียวกันนี้เป็นโมฆะนั้น ไม่ปรากฏว่าโจทก์ในคดีนี้เข้าร่วมเป็นโจทก์กับนายทุ่น ทั้งไม่ปรากฏว่านายทุ่นเป็นผู้จัดการมรดกของนายหมาดผู้ตาย อันจะถือว่ากระทำในฐานะตัวแทนทายาทรวมทั้งโจทก์ด้วย การที่ทายาทคนหนึ่งได้ยื่นฟ้องคดีไว้แล้วจะถือว่าเป็นการฟ้องคดีแทนทายาทคนอื่น ๆ ด้วยดังที่จำเลยทั้งสองฎีกาหาได้ไม่ ฉะนั้นโจทก์คดีนี้จึงไม่ใช่โจทก์คนเดียวกับคดีก่อนฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้อน อันจะเป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ ตามประเด็นที่กำหนดไว้นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อพิพากษาใหม่.

Share