คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ระยะเวลาฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินตามป.พ.พ. มาตรา 1375 วรรคสอง นั้นเป็นเรื่องแย่งการครอบครองเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยคืนที่ดินได้ตลอดระยะเวลาที่จำเลยยังคงครอบครองที่ พิพาทแทนโจทก์อยู่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นสามีภริยากัน กับเป็นเจ้าของที่ดินตามแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 1/2498หมู่ที่ 7 ตำบลโคกกระเทียม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรีเนื้อที่ 9 ไร่ 3 งาน 44 ตารางวา เมื่อประมาณ 8 ปีมาแล้วโจทก์ยืมเงินจำเลยจำนวน 9,000 บาท และมอบที่ดินดังกล่าวให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ต่อมาเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2528 โจทก์ขอชำระหนี้ 9,000 บาท แก่จำเลยและขอให้จำเลยคืนที่ดินแก่โจทก์จำเลยไม่ยอมรับชำระและไม่คืนที่ดินให้ ขอให้บังคับจำเลยรับเงินจำนวน 9,000 บาท จากโจทก์และคืนที่ดินตาม ส.ค.1 เลขที่ 1/2498หมู่ที่ 7 ตำบลโคกกระเทียม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรีแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า เดิมที่พิพาทเป็นของนางทองมามารดาจำเลยนางทองมายกให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรเขย ต่อมาโจทก์ที่ 1ขายที่พิพาทให้แก่นายเปรื่อง พัดมุกข์ และเมื่อปี พ.ศ. 2506นายเปรื่องขายที่พิพาทให้แก่จำเลย จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทด้วยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 22 ปีเศษไม่มีผู้ใดโต้แย้งกรรมสิทธิ์ จำเลยจึงมีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทและโจทก์ไม่ฟ้องจำเลยภายใน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาท โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชำระเงิน 9,000 บาท ให้จำเลย แล้วให้จำเลยส่งมอบที่ดินตาม ส.ค.1 เลขที่ 1/2498 หน้าที่ 7 ตำบลโคกกระเทียม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ในระหว่างฎีกานายต้น สุขกระจ่าง โจทก์ที่ 1 และนายปุ่นแก้วพรหม จำเลยถึงแก่ความตาย นายอำนวย สุขกระจ่าง บุตรโจทก์ที่ 1 และนางนาวัง อยู่กัด บุตรจำเลยขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ที่ 1 และจำเลยตามลำดับ ศาลฎีกาอนุญาต
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาเป็นข้อกฎหมายเพียงประการเดียวว่า คดีของโจทก์ขาดระยะเวลาฟ้องร้องตามกฎหมายแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์มอบที่พิพาทให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย จำเลยจึงครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์ เห็นว่าระยะเวลาฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 วรรคสอง นั้นเป็นเรื่องการแย่งการครอบครอง คดีนี้จำเลยครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยคืนที่ดินให้แก่โจทก์ได้ตลอดระยะเวลาที่จำเลยยังคงครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์อยู่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share