คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15686/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในกรณีที่จำเลยไม่ไปลงนามในสัญญาซื้อขายอันเป็นการปฏิบัติผิดเงื่อนไขที่จำเลยผู้เสนอราคาต้องปฏิบัติตามใบสอบราคา เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยโจทก์ได้บอกเลิกการสั่งซื้อรถยนต์จากจำเลยแล้ว ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 โจทก์บอกเลิกสัญญาและจำเลยได้รับหนังสือเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2547 และโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551 ยังไม่เกิน 10 ปี ฟ้องโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 336,506.25 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 262,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 262,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2547 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 1 ตุลาคม 2551) ต้องไม่เกิน 74,506.25 บาท ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้แย้งกันในชั้นนี้ฟังว่า โจทก์ประกาศให้ผู้สนใจยื่นคำเสนอราคาขายรถยนต์ตู้โดยวิธีการสอบราคาซื้อจำนวน 2 คัน โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไขว่าผู้เสนอราคาต้องรับผิดต่อราคาที่เสนอ หากผู้เสนอราคาได้รับแจ้งการตกลงสั่งซื้อจากโจทก์แล้วไม่ไปรับใบสั่งซื้อ หรือไม่ไปลงนามทำสัญญาภายในเวลาที่กำหนด โจทก์มีสิทธิยกเลิกราคาและเรียกร้องเบี้ยปรับ หรือพิจารณาราคาของผู้เสนอราคารายอื่น หรือสอบราคาใหม่และหากราคาที่ตกลงซื้อสูงกว่าราคาที่เสนอไว้ ผู้เสนอราคาต้องรับผิดชอบชดใช้จนครบถ้วน จำเลยเป็นผู้ยื่นคำเสนอราคารถยนต์ต่อโจทก์ในราคาคันละ 794,000 บาท โดยยอมปฏิบัติตามรายละเอียดและเงื่อนไขที่ผู้เสนอราคาต้องปฏิบัติ โจทก์แจ้งให้จำเลยไปลงนามในสัญญาซื้อขายแล้ว จำเลยเพิกเฉย โจทก์จึงบอกเลิกการสั่งซื้อแก่จำเลยและประกาศสอบราคาใหม่โดยโจทก์ต้องซื้อรถยนต์จำนวน 2 คันจากผู้อื่น ในราคาสูงกว่าที่จำเลยเสนอแก่โจทก์ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายแก่จำเลย
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการเดียวว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในกรณีที่จำเลยไม่ไปลงนามในสัญญาซื้อขายอันเป็นการปฏิบัติผิดเงื่อนไขที่จำเลยผู้เสนอราคาต้องปฏิบัติตามใบสอบราคา เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยโจทก์ได้บอกเลิกการสั่งซื้อรถยนต์จากจำเลยแล้ว ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 โจทก์บอกเลิกสัญญาและจำเลยได้รับหนังสือเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2547 และโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551 ยังไม่เกิน 10 ปี ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share