แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เบี้ยปรับหากกำหนดไว้สูงเกินส่วน ศาลมีอำนาจหยิบยกบทบัญญัติมาตรา 383 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้ปรับแก่คดีโดยลดเบี้ยปรับลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ แม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้กำหนดเรื่องเบี้ยปรับเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ในคดีโดยตรง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๒๘ จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ยอมชำระหนี้ให้โจทก์จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท โดยชำระให้๑๐,๐๐๐ บาท ในวันทำสัญญา จำนวนเงินที่เหลือจะชำระในวันที่ ๗มีนาคม ๒๕๒๙ โดยจะสั่งจ่ายเช็คให้ภายใน ๕ วันนับแต่วันทำหนังสือรับสภาพหนี้ หากไม่สั่งจ่ายเช็คให้ภายในกำหนดยอมให้โจทก์ฟ้องบังคับชำระเงินได้จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท ครบกำหนดจำเลยไม่สั่งจ่ายเช็คให้โจทก์ ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๒๐,๕๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ตามฟ้องจริงแต่โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยยังเป็นหนี้โจทก์อยู่เพียง ๑๐,๐๐๐บาท จำนวนเงินตามหนังสือรับสภาพหนี้เป็นการคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดตกเป็นโมฆะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ ๑๐,๕๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๒๘ ไปจนกว่าจำเลยจะชำระเงินเสร็จ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาว่า ข้อกฎหมายที่ศาลจะหยิบยกขึ้นวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีได้เองจะต้องเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน และการที่จำเลยไม่ได้ยกปัญหาเรื่องเบี้ยปรับขึ้นเป็นข้อต่อสู้จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทในเรื่องเบี้ยปรับสูงเกินส่วนหรือไม่ การที่ศาลหยิบยกกฎหมายที่ให้ศาลมีอำนาจลดเบี้ยปรับลงได้ซึ่งไม่ใช่กฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนและการวินิจฉัยในเรื่องเบี้ยปรับโดยไม่มีประเด็นข้อพิพาท เป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่าศาลมีหน้าที่ในการยกตัวบทกฎหมายมาปรับแก่คดี ที่ศาลชั้นต้นยกบทบัญญัติของกฎหมายในเรื่องการลดเบี้ยปรับมาใช้ปรับแก่คดีเป็นอำนาจของศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๘๓ เมื่อเห็นว่าเบี้ยปรับนั้นสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ มิใช่เรื่องยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นอ้างดังที่โจทก์ฎีกาแต่อย่างใด และแม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้กำหนดเบี้ยปรับเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ในการพิจารณาคดีโดยตรงก็มิใช่ข้อเท็จจริงที่คู่ความรับกัน เพราะจำเลยโต้แย้งไว้ในคำให้การว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์เพียงจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ดังนั้นที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินจำนวน๒๐,๐๐๐ บาท จึงเป็นการฟ้องรวมเบี้ยปรับเข้าไว้ด้วย ศาลลดเบี้ยปรับลงมาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.