แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ.2526มาตรา 4ประกาศใช้บังคับ มีผลให้ล้างมลทินแก่จำเลยที่1 ซึ่งได้พ้นโทษไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับจึงเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ไม่ได้แม้จำเลยที่ 1มิได้ฎีกา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290, 295, 83, 92 และเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ด้วย
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ จำเลยที่ 1 รับข้อเคยต้องโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290, 83 เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 92
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่ศาลล่างทั้งสองเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 หนึ่งในสาม เพราะจำเลยที่ 1 เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก 9 เดือน ฐานมียาเสพติดให้โทษตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 19443/2522 ของศาลอาญานั้น ปรากฏว่าได้มีพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2526มาตรา 4 ล้างมลทินให้แก่จำเลยที่ 1 ซึ่งต้องคำพิพากษาดังกล่าว และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ จึงเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ไม่ได้แม้จำเลยที่ 1มิได้ฎีกา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่เพิ่มโทษจำคุกจำเลยที่ 1