คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2394/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้ตายเป็นสามีภรรยามาประมาณ 11 ปี มีบุตรชาย1 คน อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ก่อนเกิดเหตุประมาณ 7 เดือน ผู้ตายไปทำเหมืองพลอยที่จังหวัดตราด ส่วนจำเลยไม่ได้ไปอยู่ด้วยแต่ไปที่เหมืองเป็นครั้งคราว วันเกิดเหตุจำเลยไปถึงบ้านผู้ตายที่เหมืองเมื่อเวลาประมาณ 21 นาฬิกา เห็นบ้านพักปิดจึงแอบดูตามช่องประตูไม้บ้านพัก เห็นผู้ตายกับผู้หญิงนอนเปลือยกายกันอยู่ในห้องสองต่อสอง เมื่อจำเลยเคาะประตู ผู้หญิงคนนั้นได้ตะโกนถามว่าเคาะทำไม ตามพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมกระทบกระเทือนจิตใจของจำเลยผู้เป็นภรรยาอย่างมาก เมื่อผู้ตายเปิดประตูห้องออกมา จำเลยก็ใช้อาวุธปืนที่นำติดตัวไปยิงผู้ตายทันที 3 นัด ผู้ตายถึงแก่ความตาย ย่อมเป็นกรณีที่จำเลยได้กระทำลงไปด้วยอารมณ์หึงหวงและโกรธแค้น ในขณะที่ยังไม่สามารถควบคุมสติและระงับอารมณ์โกรธได้ ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงทางด้านจิตใจด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนสั้นยิงนายบุญธรรมสามีของจำเลยหลายนัด โดยมีเจตนาฆ่า นายบุญธรรมได้ถึงแก่ความตาย และกระสุนปืนยังถูกนางจีรารักษ์บริเวณเท้าซ้ายได้รับอันตรายแก่กายสาหัสโดยจำเลยมีเจตนาฆ่านางจีรารักษ์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๒๘๘, ๘๐
จำเลยให้การรับว่าได้กระทำความผิดเพราะบันดาลโทสะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ซึ่งเป็นบทหนัก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๗๒ ซึ่งเป็นบทหนัก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยกับผู้ตายเป็นสามีภรรยามาประมาณ ๑๑ ปี มีบุตรชายด้วยกัน ๑ คน อายุ ๗ ขวบ ผู้ตายกับครอบครัวอยู่ที่อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ก่อนเกิดเหตุประมาณ ๗ เดือน ผู้ตายไปทำเหมืองพลอยอยู่ที่จังหวัดตราดโดยผู้ตายอยู่ประจำที่เหมือง ส่วนจำเลยไม่ได้ไปอยู่ด้วยเพราะต้องดูแลบุตร จำเลยไปที่เหมืองเป็นครั้งคราว วันเกิดเหตุจำเลยเดินทางไปหาผู้ตายที่เหมือง ไปถึงเวลาประมาณ ๒๑ นาฬิกา เห็นบ้านพักปิดอยู่ จำเลยแอบดูตามช่องประตูไม้บ้านพัก เห็นผู้ตายนอนอยู่กับหญิง เปลือยกายทั้งคู่ จึงเคาะประตูเรียก เมื่อผู้ตายเปิดประตูห้องออกมา จำเลยก็ใช้อาวุธปืนที่นำติดตัวไปยิงผู้ตายทันทีรวม ๓ นัด และผู้ตายถึงแก่ความตายในคืนนั้น แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่าการที่จำเลยเห็นผู้ตายกับผู้หญิงนอนเปลือยกายกันอยู่ในห้องสองต่อสองทั้งยังปรากฏจากคำให้การชั้นสอบสวนของนางจีรารักษ์หญิงซึ่งนอนอยู่กับผู้ตายในขณะนั้นว่า เมื่อมีเสียงเคาะประตูนางจีรารักษ์ได้ตะโกนถามว่าเคาะทำไม ตามพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมก่อให้กระทบกระเทือนจิตใจของจำเลยผู้เป็นภรรยาอย่างมาก การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายในขณะนั้นเชื่อว่าจำเลยได้กระทำลงไปด้วยอารมณ์หึงหวงและโกรธแค้น ควบคุมสติไม่ได้ และได้กระทำไปในขณะที่ยังไม่สามารถควบคุมสติและระงับอารมณ์โกรธได้ ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงทางด้านจิตใจด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมแล้วกรณีเช่นนี้จึงเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๒
พิพากษายืน

Share