คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3130/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในสำนวนคดีก่อน จำเลยทั้งสามในคดีนี้ฟ้องขอให้ห้ามส. และบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินตามฟ้องซึ่งมีที่ดินพิพาทรวมอยู่ด้วย ส. ให้การว่าที่ดินพิพาทเป็นของตนกับพี่น้องโดย ได้รับมรดกมาจากมารดา หมายความว่า ส. กับโจทก์ต่างเป็นเจ้าของร่วมกันมีฐานะเท่าเทียมกันในที่ดิน มิใช่บริวารซึ่งกันและกัน และจำเลยทั้งสามก็ไม่ได้ขอให้ศาลออกคำบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาในคดีแพ่งดังกล่าวในฐานะเป็นบริวารของ ส. เพื่อให้คำพิพากษาคดีดังกล่าวมีผลบังคับแก่โจทก์ด้วยโจทก์จึงมิใช่คู่ความในคดีแพ่งดังกล่าว ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโดยยึดถือที่ดินดังกล่าวด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 1 ปีแล้ว โดยได้สร้างบ้านในที่ดินตั้งแต่ปี 2517 และโจทก์เสียภาษีบำรุงท้องที่ด้วยตนเอง จำเลยทั้งสามในคดีนี้เคยฟ้องขับไล่นางสว่างจิตร สันตพงษ์ อ้างว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของจำเลยทั้งสามบังคับคดีขับไล่นางสว่างจิตรและบริวาร ปรากฏตามสำเนาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 387/2525 (ของศาลชั้นต้น) จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ขอให้ห้ามจำเลยทั้งสามเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่ดินดังกล่าว
จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์เป็นน้องสาวร่วมบิดามารดาเดียวกับนางสว่างจิตรจำเลยในคดีแดงที่ 387/2525 ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยทั้งสาม ห้ามนางสว่างจิตรและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง โจทก์ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท ในระหว่างที่จำเลยทั้งสามดำเนินคดีนางสว่างจิตรนั้น โจทก์ทราบเรื่องแต่มิได้โต้แย้ง กลับปล่อยให้คดีถึงที่สุดจึงขาดอายุความ โจทก์อยู่ ในฐานะบริวารหรือเพียงผู้อาศัยเท่านั้นไม่มีอำนาจฟ้องและโจทก์ครอบครองที่พิพาทหลังจากอ่านคำพิพากษาฎีกามาไม่เกิน 1 ปี ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และจำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์และจำเลยทั้งสามฎีกา
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาโจทก์ถึงแก่กรรมนางสาวประทุม เสกธีระ ยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนโจทก์ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาต
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ที่ดินพิพาทในคดีนี้เป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่ดินพิพาทในคดีแพ่งหมายเลขดำที่296/2524 หมายเลขแดงที่ 387/2525 ของศาลชั้นต้นระหว่าง จำเลยทั้งสามคดีนี้เป็นโจทก์ นางสว่างจิตร สันตพงษ์เป็นจำเลย ซึ่งคดีดังกล่าวศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยทั้งสามในคดีนี้ ห้ามนางสว่างจิตรและบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาท นางสว่างจิตรเป็นพี่ร่วมบิดามารดากับโจทก์คดีนี้ ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 387/2525 ของศาลชั้นต้นหรือไม่ เห็นว่าในสำนวนดังกล่าวจำเลยทั้งสามในคดีนี้ฟ้องขอให้ห้ามนางสว่างจิตรและบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินตามฟ้องซึ่งมีที่ดินพิพาทรวมอยู่ด้วย นางสว่างจิตรให้การว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของตนกับพี่น้องโดยได้รับมรดกมาจากมารดาหมายความว่านางสว่างจิตรกับโจทก์ต่างเป็นเจ้าของ ร่วมกันมีฐานะเท่าเทียมกันในที่ดินมิใช่บริวารซึ่งกันและกันจำเลยทั้งสามก็ไม่ได้ขอให้ศาลออกคำบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาในคดีแพ่งดังกล่าวในฐานะเป็นบริวารของนางสว่างจินรเพื่อให้คำพิพากษาคดีดังกล่าวมีผลบังคับแก่โจทก์ด้วย โจทก์จึงมิใช่คู่ความในคดีแพ่งดังกล่าวแล้ว ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 387/2525 ของศาลชั้นต้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share