แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนกับลูกระเบิดไว้ในครอบครอง เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งเป็นความผิดกระทงหนึ่งนั้น กองรวมอยู่กับลูกระเบิดอันเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งที่จำเลยฎีกาขึ้นมาในเมื่อรูปคดียังเป็นที่สงสัยว่าจำเลยอาจจะมิได้มีเจตนายึดถือลูกระเบิดนั้นไว้เพื่อตนและยกประโยชน์ให้จำเลยเช่นนี้ ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้องข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งเป็นกระทงความผิดที่คู่ความมิได้ฎีกาได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 185
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสั้นขนาด .38 ชนิดทำขึ้นเอง ไม่มีเครื่องหมายทะเบียน 1 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัดใช้ยิงได้ กับมีลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ 88 ม.67 จำนวน 1 ลูก ซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง อยู่ในสภาพใช้การได้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 55, 72, 78 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 5 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2522 มาตรา 6, 8 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3, 6, 10ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 55, 72, 78 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 5 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2522 มาตรา 6, 8 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3, 6, 10ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 3 ปี ฐานมีวัตถุระเบิดที่ใช้ในการสงครามจำคุก 7 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 10 ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 38, 74 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ข้อ 9 ให้ลงโทษจำเลยในข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ไม่รับอนุญาตจำคุก 1 ปี ช้อหามีวัตถุระเบิดจำคุก 2 ปี รวมเป็น จำคุก 3 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น (ข้อหามีวัตถุระเบิด ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษแก้บทเป็นแก้ไขมากไม่ต้องห้ามฎีกา)
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยอาจจะมีได้มีเจตนายึดถือของกลางนั้นไว้เพื่อตนก็เป็นได้ รูปคดียังเป็นที่สงสัย ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไว้ในครอบครองนั้นกองรวมอยู่กับลูกระเบิดอันเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งในเมื่อฟังได้ว่าจำเลยอาจจะมิได้มีเจตนายึดถือลูกระเบิดนั้นไว้เพื่อตนอันเป็นกระทงความผิดที่จำเลยฎีกาขึ้นมาเช่นนี้ ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกประเด็นข้อหาในเรื่องความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่งขึ้นวินิจฉัยด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ให้ยกฟ้องในกระทงความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเสียด้วย
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ริบของกลาง