คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2646/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกน้อยลงและรอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า “จำเลยถูกพิพากาษลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษชั้นต่ำให้สูงจากเดิมมาก สมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปจึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้” เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันตัดฟันไม้หวงห้าม แล้วทำการแปรรูปและมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๑, ๔๘, ๗๓, ๗๔, ๗๔ ทวิ, ๗๔ จัตวา ฯลฯ ริบของกลาง และจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับ
จำเลยทั้งสิบเอ็ดให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุกกระทงละ ๒ ปี รวมจำคุกคนละ ๖ ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ ๓ ปี ริบของกลาง
จำเลยทั้งสิบเอ็ดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสิบเอ็ดฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาเป็นผู้รับรอง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกน้อยกว่าที่ศาลล่างกำหนดและรอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกคนละ ๓ ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เว้นแต่ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิเคราะห์เห็นว่า ข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด และอนุญาตให้ฎีกา หรืออธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย ก็ให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ตามบทบัญญัติมาตรา ๒๒๑ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ปรากฏจากคำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า “จำเลยถูกพิพากษาลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษชั้นต่ำให้สูงจากเดิมมากสมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัย เพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป จึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้” พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำรับรองดังกล่าวไม่ต้องด้วยมาตรา ๒๒๑ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้
พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share