คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8575/2551

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ประกอบอาชีพรับจ้างขนส่งสินค้า ได้รับมอบสินค้าจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ. เพื่อนำไปส่งให้แก่ร้าน ห. ลูกค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. จึงเป็นตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ. และได้ความจาก ม. พนักงานของห้างหุ้นส่วน ฮ. พยานโจทก์ว่า ร้าน ห. ได้สั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ และเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้วจึงจะชำระเงิน แสดงว่าการส่งมอบสินค้าดังกล่าวจะเป็นไปตามที่ลูกค้าต้องการหรือไม่ยังไม่แน่นอน เพราะต้องให้ลูกค้าตรวจสอบก่อน หากใช่ตามที่ต้องการตกลงซื้อขายกันแล้วจึงจะชำระเงิน เมื่อสินค้าดังกล่าวยังไม่มีการชำระราคา และยังไม่ได้ส่งมอบให้แก่ร้าน ห. กรรมสิทธิ์ในสินค้าดังกล่าวจึงยังเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ. การที่มีผู้โทรศัพท์มาหลอกลวง ส. ซึ่งเป็นพนักงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. และมารับสินค้าไป ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ. ซึ่งเป็นตัวการและเป็นเจ้าของสินค้าย่อมได้รับความเสียหาย ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ. จึงเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย มีสิทธิร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีแก่ผู้หลอกลวงในความผิดฐานฉ้อโกงได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวน 12,000 บาท แก่ผู้เสียหาย และนับโทษของจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 12383/2545 ของศาลอาญากรุงเทพใต้
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ลงโทษจำคุก 1 ปี และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวน 12,000 บาท แก่ผู้เสียหาย ส่วนคำขอให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 12383/2545 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ยก เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลยังมิได้พิพากษาลงโทษจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์ จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด มีนางกัญญาเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2545 เวลาประมาณ 11 นาฬิกา ห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์นำสินค้าคือกล้องถ่ายรูป 10 กล้อง กล่องใส่สไลด์ 100 กล่อง และเมาส์สไลด์ 4,000 อัน รวมราคา 12,000 บาท บรรจุใส่กล่อง 2 กล่อง และว่าจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดประจวบทองชัยขนส่ง ทำการขนส่งสินค้าดังกล่าวไปยังร้านหัวหิน โฟโต้เอ็กซ์เพรส ตั้งอยู่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นลูกค้าผู้สั่งซื้อ โดยนางสุนีย์พนักงานของห้างหุ้นส่วนจำกัดประจวบทองชัยขนส่งเป็นผู้รับไว้ กล่องสินค้าดังกล่าวจ่าหน้าถึงผู้รับว่า ส่งหัวหินโฟโต้ จากอนุชิต เหตุที่ใช้ชื่ออนุชิตเป็นผู้ส่งเพราะหากใช้ชื่อของห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์สินค้ามักหายบ่อย ต่อมาเวลาประมาณ 15 นาฬิกา ของวันนั้นนางสุนีย์ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งว่า บริษัทผู้ส่งมอบสินค้าในชื่ออนุชิตจ่าหน้าส่งของผิดที่ เนื่องจากจะส่งไปจังหวัดพิษณุโลก ไม่ใช่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้นำของส่งคืนและจะมารับในวันรุ่งขึ้น และในวันรุ่งขึ้นเวลาประมาณ 15 นาฬิกา จำเลยมาติดต่อขอรับสินค้าคืน นางสุนีย์จึงมอบสินค้าทั้งสองกล่องให้ไปโดยจำเลยนำสินค้าบรรทุกรถจักรยานยนต์แล้วขับออกไป ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์ได้รับแจ้งการลูกค้าว่า ยังไม่ได้รับสินค้าจึงไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลย
พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์เป็นผู้เสียหายตามกฎหมายและมีสิทธิร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดประจวบทองชัยขนส่งประกอบอาชีพรับจ้างขนส่งสินค้า ได้รับมอบสินค้าจากห้างหุ้นส่วนฮะเฮงประดับภัณฑ์เพื่อนำไปส่งแก่ร้านหัวหินโฟโต้เอ็กซ์เพรสลูกค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัดประจวบทองชัยขนส่งจึงเป็นตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์ และได้ความจากนางสาวมาลีพนักงานของห้างหุ้นส่วนฮะเฮงประดับภัณฑ์ พยานโจทก์ว่าร้านหัวหินโฟโต้เอ็กซ์เพรสได้สั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ และเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้วจึงจะชำระเงิน แสดงว่าการส่งมอบสินค้าดังกล่าวจะเป็นไปตามที่ลูกค้าต้องการหรือไม่ยังไม่แน่นอน เพราะต้องให้ลูกค้าตรวจสอบก่อน หากใช่ตามที่ต้องการตกลงซื้อขายกันแล้วจึงจะชำระเงิน เมื่อสินค้าดังกล่าวยังไม่มีการชำระราคา และยังไม่ได้ส่งมอบให้แก่ร้านหัวหินโฟโต้เอ็กซ์เพรส กรรมสิทธิ์ในสินค้าดังกล่าวจึงยังเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์ การที่มีผู้โทรศัพท์มาหลอกลวงนางสุนีย์ซึ่งเป็นพนักงานของห้างหุ้นส่วนจำกัดประจวบทองชัยขนส่งและมารับสินค้าไป ห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์ซึ่งเป็นตัวการและเป็นเจ้าของสินค้าย่อมได้รับความเสียหายห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์จึงเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย มีสิทธิร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีแก่ผู้หลอกลวงในความผิดฐานฉ้อโกงได้ พนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจสอบสวนในความผิดฐานนี้ และโจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนี้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดฮะเฮงประดับภัณฑ์ไม่ใช่ผู้เสียหาย และพิพากษายกฟ้องโจทก์ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
เนื่องจากความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี คู่ความจึงอาจต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ จึงเห็นสมควรให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในปัญหาดังกล่าว”
พิพากษากลับ ให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของจำเลยต่อไป

Share