แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
คดีเดิมจำเลยฟ้องโจทก์เรียกค่าเสียหายจากการถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม โจทก์ให้การปฏิเสธและฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากจำเลย ข้อเท็จจริงยุติฟังไม่ได้ว่าจำเลยแอบอ้างชื่อ ก. สั่งซื้อและรับสินค้าจากโจทก์โดยไม่ชำระราคา และการที่จำเลยแต่งตั้งสมาชิกชื่อ ร. อาจเป็นเรื่องที่จำเลยสำคัญตัวบุคคลผิด จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทุจริตต่อหน้าที่กระทำผิดอาญาโดยเจตนาหรือจงใจทำให้โจทก์เสียหายยกฟ้องแย้ง คดีถึงที่สุด โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้โดยอ้างเหตุการแต่งตั้งสมาชิกทั้งสองรายโดยไม่มีตัวตนอยู่จริงเป็นการประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหายอันเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ ดังนี้ เป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน เป็นฟ้องซ้ำ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเคยเป็นลูกจ้างของโจทก์ตำแหน่งผู้จัดการประจำเขต 523 (สระบุรี) และ 527 (นครปฐม) ตามลำดับ โจทก์เลิกจ้างจำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน2540 และเลิกจ้างจำเลยที่ 2 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2540 เพราะจำเลยทั้งสองปฏิบัติหน้าที่ในการแต่งตั้งสมาชิกให้โจทก์ไม่ถูกต้องและไม่สุจริตโดยประมาทเลินเล่อ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย กล่าวคือเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2539จำเลยที่ 1 ได้แต่งตั้งสมาชิกชื่อกรุณาภรณ์ จันทร์ไม้งาม ที่อยู่เลขที่ 120/16 การเคหะทุ่งสองห้อง แขวงตลาดบางเขน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ที่อยู่สำหรับส่งของเลขที่ 33/75หมู่บ้านประเสริฐสุข ตำบลดาวเรือง อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นบ้านจำเลยที่ 1 ส่งมาให้โจทก์ โดยจำเลยที่ 1มิได้ตรวจสอบและขอดูบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัครเป็นสมาชิกตามกฎ ระเบียบ คำสั่ง ของโจทก์ เพียงแต่จดชื่อที่อยู่ตามคำบอกเล่าของผู้สมัครเป็นสมาชิก มีการแอบอ้างนามสมาชิกรายนี้รับมอบสินค้าของโจทก์ไปเป็นเงินทั้งสิ้น 249,708 บาท ชื่อและนามสกุลของสมาชิกรายนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริงทำให้โจทก์ไม่สามารถติดตามค่าสินค้าได้ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์เสียหายเป็นเงิน 249,708 บาท วันที่ 2 พฤษภาคม2540 จำเลยที่ 2 ได้แต่งตั้งสมาชิกชื่อนายโรจนะ โพธิ์จันทร์ ที่อยู่เลขที่ 189/2 หมู่ 4 ตำบลสามง่าม อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐมที่อยู่สำหรับส่งของเลขที่ 116 หมู่ 7 ตำบลดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยจำเลยที่ 2 มิได้ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัครเป็นสมาชิกว่าถูกต้องตรงกับที่ระบุไว้ในบัตรทะเบียนแต่งตั้งสมาชิกหรือไม่ ตามกฎ ระเบียบคำสั่งของโจทก์ เพียงแต่จดไปตามคำบอกเล่าของผู้สมัครเป็นสมาชิกเท่านั้น มีการแอบอ้างนามสมาชิกรายนี้รับมอบสินค้าไปจากโจทก์ 3,489 บาท ชื่อและนามสกุลของสมาชิกรายนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง ทำให้โจทก์ไม่สามารถติดตามค่าสินค้าได้การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหายเป็นเงินค่าสินค้า 3,489 บาท ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามและตรวจสอบข้อเท็จจริงอีก 20,000 บาท รวมเป็นเงิน23,489 บาท จำเลยทั้งสองฟ้องเรียกค่าชดเชยและค่าจ้างค้างจ่ายจากโจทก์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 18772-18773/2541ของศาลแรงงานกลาง คดีถึงที่สุดแล้ว คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองชำระค่าเสียหายในการทำละเมิดต่อโจทก์เป็นคนละประเด็นกับคดีก่อน โจทก์ทราบว่าจำเลยที่ 1 ทำละเมิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม2541 และทราบว่าจำเลยที่ 2 ทำละเมิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2541ขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ชดใช้เงินจำนวน 249,708 บาท ให้จำเลยที่ 2ชดใช้เงินจำนวน 23,489 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนถึงวันชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์ หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระก็ให้หักกลบลบหนี้ของโจทก์ที่มีต่อจำเลยทั้งสองในคดีหมายเลขแดงที่ 18772-18773/2541 เหลือเงินเท่าใดให้จำเลยทั้งสองชดใช้ให้โจทก์ต่อไป
จำเลยทั้งสองให้การว่า ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำ กล่าวคือโจทก์นำข้อเท็จจริงและประเด็นข้อพิพาทเดียวกันกับที่โจทก์ได้ฟ้องแย้งจำเลยทั้งสองในคดีหมายเลขแดงที่ 18772-18773/2541 ของศาลแรงงานกลางซึ่งถึงที่สุดแล้วมาฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้อีกจำเลยทั้งสองมิได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำละเมิดต่อโจทก์โจทก์ไม่มีระเบียบข้อบังคับให้จำเลยทั้งสองต้องตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัครเป็นสมาชิก เมื่อโจทก์ตรวจสอบและอนุมัติให้เป็นสมาชิกแล้วจำเลยทั้งสองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติขายการส่งสินค้า และหนี้ที่เกิดจากการขายสินค้าให้สมาชิก สมาชิกที่ใช้ชื่อกรุณาภรณ์ จันทร์ไม้งาม มีตัวตนอยู่จริง เคยสั่งซื้อและชำระค่าสินค้าให้โจทก์มาแล้ว 16 ครั้ง สมาชิกรายนี้ค้างชำระค่าสินค้าตามฟ้องเป็นความบกพร่องของโจทก์ ความเสียหายไม่ได้เกิดจากการกระทำของจำเลยที่ 1 ข้อเท็จจริงได้ปรากฏชัดแจ้งในการพิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ 18772-18773/2541 แล้ว ความเสียหายอันเกิดขึ้นเนื่องจากสมาชิกชื่อนายโรจนะ โพธิ์จันทร์ เป็นการซื้อขายสินค้าระหว่างสมาชิกรายนี้กับโจทก์ จำเลยที่ 2 มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยค่าติดตามทวงถามตรวจสอบข้อเท็จจริงอีก 20,000 บาท มิได้เกิดจากการกระทำของจำเลยที่ 2 โจทก์ไม่ฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่วันทำละเมิดฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำกับคดีหมายเลขแดงที่ 18772-18773/2541 ของศาลแรงงานกลางหรือไม่ เห็นว่า ในคดีหมายเลขแดงที่ 18772-18773/2541 ของศาลแรงงานกลาง จำเลยทั้งสองฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลยว่าเลิกจ้างจำเลยทั้งสองโดยไม่ได้กระทำผิด ให้จ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าค่าจ้างค้างจ่าย ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม โจทก์ให้การว่า จำเลยทั้งสองประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหายอย่างร้ายแรงเป็นการกระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต ทุจริตและกระทำความผิดอาญาจงใจให้นายจ้างเสียหาย โจทก์จึงเลิกจ้างจำเลยทั้งสองได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรมแล้ว จึงไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมและฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองว่าในชั้นพิจารณาคดีดังกล่าวของศาลแรงงานกลาง โจทก์และจำเลยทั้งสองแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่าโจทก์ตรวจสอบที่อยู่ของสมาชิกชื่อกรุณาภรณ์จันทร์ไม้งาม ทางทะเบียน ณ บ้านเลขที่ 120/16 การเคหะทุ่งสองห้องแขวงตลาดบางเขน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร (ตามที่จำเลยที่ 1รับไว้จากสมาชิกชื่อกรุณาภรณ์ จันทร์ไม้งาม) ไม่พบชื่อของสมาชิกรายนี้อยู่ในทะเบียน เมื่อนำชื่อและเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกรายนี้ไปตรวจสอบที่สำนักงานทะเบียนกลาง กรมการปกครองก็ไม่ปรากฏชื่อในฐานข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์ และพนักงานโจทก์นำชื่อและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกชื่อนายโรจนะโพธิ์จันทร์ ไปขอคัดแบบรายการรับรองทะเบียนราษฎรที่สำนักงานทะเบียนกลาง กรมการปกครองปรากฏว่ามีชื่อนายโรจนะ สุขสมสิน อยู่บ้านเลขที่ 223/4 หมู่ 4 ตำบลสามง่าม อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม (ที่อยู่ตามที่จำเลยที่ 2 รับไว้จากสมาชิกชื่อนายโรจนะโพธิ์จันทร์ เป็นบ้านเลขที่ 189/2 หมู่ 4 ตำบลสามง่าม อำเภอดอนตูมจังหวัดนครปฐม) จากข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยทั้งสองแถลงรับกันแสดงว่าสมาชิกชื่อกรุณาภรณ์ จันทร์ไม้งาม และนายโรจนะ โพธิ์จันทร์ไม่มีตัวอยู่ ณ ภูมิลำเนาตามที่จำเลยทั้งสองจดไว้ ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า กรณีที่จำเลยที่ 1 แต่งตั้งสมาชิกชื่อกรุณาภรณ์ จันทร์ไม้งามข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 แอบอ้างชื่อสมาชิก กรุณาภรณ์จันทร์ไม้งาม สั่งซื้อและรับสินค้าจากโจทก์โดยไม่ชำระราคา กรณีจำเลยที่ 2 แต่งตั้งสมาชิกชื่อนายโรจนะ โพธิ์จันทร์ อาจเป็นเรื่องจำเลยที่ 2 สำคัญผิดว่านายโรจนะ โพธิ์จันทร์ ผู้แจ้งวันเดือนปีเกิดและเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนเป็นนายโรจนะ สุขสมสิน ก็เป็นได้ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองทุจริตต่อหน้าที่กระทำผิดอาญาโดยเจตนาหรือจงใจทำให้โจทก์เสียหาย จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามฟ้องแย้งแก่โจทก์ พิพากษาให้ยกฟ้องแย้งศาลฎีกาพิพากษายืน คดีถึงที่สุด โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้โดยอ้างเหตุว่าจำเลยที่ 1 แต่งตั้งสมาชิกชื่อกรุณาภรณ์ จันทร์ไม้งามจำเลยที่ 2 แต่งตั้งสมาชิกชื่อนายโรจนะ โพธิ์จันทร์ โดยสมาชิกทั้งสองรายไม่มีตัวตนอยู่จริง เป็นการประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหายอันเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ จึงเป็นการนำข้อเท็จจริงในคดีหมายเลขแดงที่ 18772-18773/2541 ของศาลแรงงานกลางซึ่งศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องแย้ง คดีถึงที่สุดแล้วมาฟ้องเป็นคดีนี้อีกโดยคู่ความทั้งสองคดีเป็นคู่ความเดียวกัน จึงเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน เป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 31 ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้วอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน