คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกระทำผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานสองกระทง ศาลฎีกาเรียงกระทงลงโทษจำคุกกระทงละตลอดชีวิต และผิดฐานมีอาวุธปืนกับฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านอีกสองกระทง จำคุกกระทงละ12 ปี และ 3 ปี ตามลำดับ ลดโทษให้หนึ่งในสามแล้วจำคุกทั้งสิ้น 76 ปี 8 เดือน ดังนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ที่แก้ไขใหม่เป็นคุณแก่จำเลย จึงให้จำคุกจำเลย 50 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และพาอาวุธปืนดังกล่าวไปในหมู่บ้านโดยไม่รับอนุญาต จำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงพันตำรวจตรีเฉียบกับพลตำรวจสมัครสุพลโดยเจตนาฆ่า แต่ยิงไม่ถูกจึงไม่มีผู้ใดถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗,๘ ทวิ, ๕๕, ๗๒ ทวิ ๗๘ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘, ๑๔๐, ๒๒๘, ๒๘๙, ๘๐, ๙๑, ๓๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามฟ้อง เรียงกระทงลงโทษฐานมีอาวุธปืนจำคุก ๑๒ ปี ฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านจำคุก ๓ ปี ฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานสองกระทงจำคุกกระทงละตลอดชีวิต ลดโทษให้หนึ่งในสามแล้วจำคุกทั้งสิ้น ๗๖ ปี ๘ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยผิดตามฟ้อง และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าหลังจากศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ แก้ไขมาตรา ๙๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญาเสียใหม่โดยให้ศาลลงโทษผู้ที่กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันทุกกระทงความผิดแต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงแล้วโทษจำคุกทั้งสิ้นไม่เกิน ๕๐ ปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสิบปีขึ้นไปดั่งเช่นคดีนี้ อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓ จึงต้องใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลยกำหนดโทษเสียใหม่
พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยให้จำคุกจำเลยเพียง ๕๐ ปี.

Share