คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3084/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ พนักงานเจ้าหน้าที่รับอายัดที่ดินตามป.ที่ดินมาตรา83ไว้แล้วและผู้ขออายัดไปดำเนินคดีทางศาลภายในกำหนดเวลาการอายัดก็ยังคงมีผลอยู่ต่อไปจนกว่าศาลจะสั่งให้ถอนการอายัดหรือมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งถึงที่สุดเมื่อคดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาและไม่มีคำสั่งศาลให้ถอนการอายัดการอายัดจึงยังคงมีอยู่ตามมาตรา83วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ พิพากษา ว่า โจทก์ มีสิทธิ จดทะเบียน สิทธิ และนิติกรรม รับโอน สิทธิ ที่ดิน ตาม หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3ก. )เลขที่ 759 จาก นาง ย่าบ๋าย หรือย่าบ่าย ช้างน้ำ และ ให้ จำเลย ดำเนินการ จดทะเบียน โอนสิทธิ ใน ที่ดิน ดังกล่าว ให้ แก่ โจทก์ ตามคำพิพากษา ใน คดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่ 308/2535 ของ ศาลชั้นต้น ให้จำเลย ใช้ ค่าเสียหาย แก่ โจทก์ เดือน ละ 20,000 บาท นับแต่ วันฟ้องไป จนกว่า จะ ทำการ จดทะเบียน แล้ว เสร็จ
จำเลย ให้การ ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น ชี้สองสถาน กำหนด ประเด็น พิพาท ไว้ ทั้งหมด 4 ข้อแต่ คู่ความ ต่าง ยอมรับ ข้อเท็จจริง และ สละ ประเด็น พิพาท ข้อ อื่น โดยไม่ติดใจ สืบพยาน คง ขอให้ ศาลชั้นต้น ชี้ขาด ข้อกฎหมาย เบื้องต้น เฉพาะประเด็น พิพาท ข้อ 3 ซึ่ง เป็น ข้อกฎหมาย เป็น ข้อ แพ้ ชนะ กัน ว่า จำเลยจะ อ้าง ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 83 วรรคสอง เพื่อ ไม่ปฏิบัติ ตามคำพิพากษา ใน คดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่ 308/2525 ของ ศาลชั้นต้น ได้ หรือไม่
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ข้อเท็จจริง รับฟัง ได้ว่า ที่ดิน ตาม หนังสือรับรอง การ ทำประโยชน์ น.ส. 3ก. เลขที่ 759 เลขที่ ดิน 40 เนื้อที่3 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา ตั้ง อยู่ ตำบล ศาลาด่าน (เกาะลันตาใหญ่) อำเภอ เกาะลันตา จังหวัด กระบี่ เป็น ทรัพย์มรดก ของ นาย อะเมะ ช้างน้ำ นางย่าบ๋ายหรือย่าบ่าย ช้างน้ำ เป็น ผู้จัดการมรดก ของ นาย อะเมะ ได้ ขาย ที่ดิน ดังกล่าว ให้ แก่ โจทก์ แต่ ไม่สามารถ โอน กัน ได้ เพราะ นาง สุกิต ช้างน้ำ ทายาท คนหนึ่ง ของ นาย อะเมะ ได้ อายัด ที่ดิน นั้น ไว้ ตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 83 และ นาง สุกิต ช้างน้ำ ได้ ร่วม กับ ทายาท อื่น ฟ้อง นาง ย่าบ๋ายหรือย่าบ่าย ใน ฐานะ ผู้จัดการ มรดก ของ นาย อะเมะ ขอให้ แบ่ง ที่ดิน ตาม น.ส. 3ก. เลขที่ 759 ให้ แก่ ทายาท ผู้มีสิทธิ รับมรดก ปรากฏ ตาม คดีแพ่ง หมายเลขดำ ที่ 191/2532ของ ศาลชั้นต้น ต่อมา โจทก์ ฟ้อง นาง ย่าบ๋ายหรือย่าบ่าย ช้างน้ำ และ ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ นาง ย่าบ๋ายหรือย่าบ่าย จดทะเบียน โอน สิทธิ ครอบครอง ที่ดิน ตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 759 ให้ แก่ โจทก์ หากไม่ ดำเนินการ โอน ภายใน กำหนด ให้ ถือเอา คำพิพากษา เป็น การแสดง เจตนาแทน ปรากฏ ตาม คดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่ 308/2535 ของ ศาลชั้นต้น โจทก์ได้ ยื่น คำร้องขอ ให้ จำเลย ซึ่ง เป็น นายอำเภอ เกาะลันตา ใน ฐานะ พนักงาน เจ้าหน้าที่ รับ จดทะเบียน สิทธิ และ นิติกรรม ให้ จดทะเบียน โอนสิทธิครอบครอง ที่ดิน ตาม น.ส. 3ก. เลขที่ 759 ให้ แก่ โจทก์ แต่ จำเลยไม่รับ จดทะเบียน ที่ดิน แปลง ดังกล่าว ให้ เนื่องจาก ที่ดิน ถูก นาง สุกิต ช้างน้ำ อายัด ไว้ มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ว่า จำเลย จะ อ้าง ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 83 วรรคสอง เพื่อ ไม่รับ จดทะเบียน โอนสิทธิ ครอบครอง ที่ดิน น.ส. 3ก. เลขที่ 759 ให้ แก่ โจทก์ ตาม คำพิพากษาคดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่ 308/2535 ของ ศาลชั้นต้น ได้ หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การ ขอ อายัด ที่ดิน ต่อ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ตาม ประมวล กฎหมายที่ดิน มาตรา 83 นั้น เมื่อ พนักงาน เจ้าหน้าที่ รับ อายัด ไว้ แล้วและ ผู้ขออายัด ไป ดำเนินคดี ทาง ศาล ภายใน กำหนด เวลา การ อายัด ก็ ยัง คงมีผล อยู่ ต่อไป จนกว่า ศาล จะ สั่ง ให้ ถอน การ อายัด หรือ มี คำพิพากษาหรือ มี คำสั่ง ถึงที่สุด ดังนั้น ขณะที่ โจทก์ ฟ้องคดี นี้ คดีแพ่งหมายเลขแดง ที่ 308/2535 ของ ศาลชั้นต้น ยัง อยู่ ระหว่าง การ พิจารณาของ ศาลฎีกา และ ไม่มี คำสั่งศาล ให้ ถอน การ อายัด การ อายัด จึง ยัง คงมี อยู่ ตาม มาตรา 83 วรรคสอง อนึ่ง เมื่อ พิเคราะห์ รูปคดี แล้ว ปรากฏว่า ทั้ง นาง ย่าบ๋ายหรือย่าบ่าย ช้างน้ำ และ โจทก์ ต่าง ทราบ ดี ขณะ ทำการ ซื้อ ขาย ที่พิพาท ว่า ที่พิพาท เป็น ที่ดิน มรดก ที่ ทายาท ของนาย อะเมะ ไม่ประสงค์ จะขาย แต่ ต้องการ แบ่งปัน กัน ระหว่าง ทายาท ฉะนั้น ใน วันที่ โจทก์ และ นาง ย่าบ๋ายหรือย่าบ่าย ไป ขอ ทำนิติกรรม จดทะเบียน โอนสิทธิ ครอบครอง ที่พิพาท นาง สุกิต ช้างน้ำ จึง ได้ ไป ขอ อายัด ที่พิพาท ไว้ เมื่อ พนักงาน เจ้าหน้าที่ รับ อายัด โจทก์ ได้ มายื่นฟ้อง นาง ย่าบ๋ายหรือย่าบ่าย เป็น คดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่ 308/2535เพื่อ ให้ คดี เสร็จเด็ดขาด ใน ศาลชั้นต้น โดย ศาล พิพากษา ให้ นาง ย่าบ๋าย หรือ ย่าบ่าย จดทะเบียน โอนสิทธิ ครอบครอง ที่พิพาท ให้ แก่ โจทก์ และ โจทก์ จะ ได้ นำ คำพิพากษา ไป แสดง แก่ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ให้ รับจดทะเบียน โอนสิทธิ ครอบครอง ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง ๆ ที่ ที่พิพาท ยัง ถูกอายัด อยู่ พฤติการณ์ เช่นนี้ โจทก์ จะ อ้างว่า ตน เป็น ผู้สุจริต และขอ ใช้ สิทธิ ทาง ศาล เพื่อ บังคับ จำเลย ซึ่ง เป็น พนักงาน เจ้าหน้าที่ให้ รับ จดทะเบียน โอนสิทธิ ครอบครอง ที่พิพาท แก่ โจทก์ ใน ขณะที่ ที่พิพาท อยู่ ระหว่าง ถูก อายัด ตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 83 วรรคสองหาได้ไม่ ที่ จำเลย อ้าง บทบัญญัติ มาตรา ดังกล่าว ปฏิเสธ ไม่รับ จดทะเบียนให้ โจทก์ จึง ชอบแล้ว ที่ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา มา นั้น ศาลฎีกา เห็นพ้องด้วย ฎีกา ของ โจทก์ ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share