แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปที่ร้านผู้เสียหายด้วยอาการเมาสุราขณะที่ผู้เสียหายเปิดร้านค้าอยู่ห่างจำเลยเพียง 10 เมตร โดยมีผู้คนกำลังซื้อของ จำเลยอาจเล็งเห็นผลได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายหรือคนในร้านถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิงที่บริเวณหลังใต้สะบักกระสุนฝังในได้รับอันตรายสาหัสจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสั้นไม่ทราบชนิดขนาด .25 จำนวน1 กระบอกและมีกระสุนปืนจำนวน 1 นัด ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนสั้นยิงเข้าไปในร้านค้าซึ่งมีนางสาวรัชนีกับพวกหลายคนอยู่ภายในร้าน 1 นัด โดยจำเลยมีเจตนาฆ่านางสาวรัชนีกับพวก กระสุนปืนถูกนางสาวรัชนีที่บริเวณหลังด้านขวาใต้สะบักนางสาวรัชนีได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ฯลฯ และริบหัวกระสุนปืนของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ฯลฯ ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองจำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนจำคุก 6 เดือน รวมโทษจำคุก 1 ปี6 เดือน ลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามมาตรา 78 จำคุก 1 ปี ริบหัวกระสุนปืนของกลาง ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุก 11 ปี และจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 72 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ฯลฯ ลงโทษตามมาตรา 72 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามมาตรา 90 ให้จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 12 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 จำคุก 8 ปี ริบหัวกระสุนปืนของกลาง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปที่ร้านผู้เสียหายด้วยอาการเมาสุรา ขณะที่ผู้เสียหายเปิดร้านค้าอยู่ห่างจำเลยเพียง 10 เมตร โดยมีผู้คนกำลังซื้อของ จำเลยอาจเล็งเห็นผลได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายหรือคนในร้านถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิงที่บริเวณหลังใต้สะบักกระสุนฝังในได้รับอันตรายสาหัส จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
พิพากษายืน